30 December 2005
December 30 1:49 PM
อย่าว่าแต่ประชาชนเลย ดูรัฐมนตรีซะก่อนเถอะ...
ช่างน่าอนาถใจ...
26 December 2005
26 December: Lest we forget
for life must go on.
Don't forget those who loved and were loved,
for in our memories they shall rest.
Don't pretend nothing happened that shattered our lives,
for lessons there are to be learnt.
Don't just let pass into history these events of 2004,
for they are a reminder of who we really are.
In rememberance of those who lost their lives in the 26 December 2004 tsunami, and those who reminded us that life is worth struggling for.
15 December 2005
อ๊ะ... (2)
ว้าว ๆ ได้แล้ว ๆ รอแค่ครึ่งปีกว่าเอง...
(นี่แล้วจะเปลี่ยนที่อยู่กลับได้หรือเปล่าเนี่ย?)
14 December 2005
December 14 6:17 PM
ที่ทำไม่ได้ไม่ใช่เพราะอะไร... เพราะกลัวจะกระทบคนอ่าน
ก็เป็นงั้นไป...
12 December 2005
Life drains from us like water in cupped hands.
3 December 2005
Evidence-based thinking | Plagiarism
เมื่อวานนี้ตอนต้นชั่วโมง Ethics อาจารย์สมเกียรติมาพูดเกี่ยวกับการนำเสนองาน มีส่วนหนึ่งที่พูดถึงการเป็น evidence-based
ที่จริง evidence-based medicine ผมเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะปลูกฝังให้นิสิตแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะกว่าที่จะได้เรียนเอาตอนปีสามมันค่อนข้างสายที่จะปรับเปลี่ยนทัศนคติและกระบวนการคิด ความจริงที่อาจารย์สมเกียรติพูดมาแล้ว 2-3 ครั้งผมยังคิดว่าไม่ได้นำเสนอในมุมมองที่สะท้อนให้เห็นความสำคัญเพียงพอ และอาจยังไม่เข้าถึงนิสิตได้จริง ๆ
ถ้าจะให้ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็อย่างเรื่องน้ำดื่ม reverse osmosis นั่นแหละครับ...
แต่เรื่องที่อยากจะพูดถึงมานานแล้วเหมือนกัน ที่อาจารย์พูดถึงนิดหนึ่ง คือ plagiarism
pla·gia·rize
v. pla·gia·rized, pla·gia·riz·ing, pla·gia·riz·es
v. tr.v. intr.
- To use and pass off (the ideas or writings of another) as one's own.
- To appropriate for use as one's own passages or ideas from (another).
To put forth as original to oneself the ideas or words of another.Source: The American Heritage® Dictionary of the English Language, Fourth Edition
Copyright © 2000 by Houghton Mifflin Company.
Published by Houghton Mifflin Company. All rights reserved.
- Provided by Reference.com
ประเด็นที่อาจารย์พูดถึงเรื่องนี้จริง ๆ ก็มีอยู่ไม่มาก (คือตรงที่ว่าเวลาที่หาข้อมูลมาแล้วต้องสรุปความเรียบเรียงให้เหมาะสม ไม่ใช่ copy มาทั้งดุ้นโดยบางทีก็ยังไม่ได้อ่าน) แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถูกมองข้ามความสำคัญไปมากในสังคมการศึกษาของเราในปัจจุบัน
เวลาที่ทำงานร่วมกับเพื่อน ๆ บางครั้งผมเองก็ค่อนข้างอึดอัดใจที่เพื่อนทำงานโดย copy มาจากแหล่งบนอินเทอร์เน็ตทั้งดุ้นแบบที่อยากจะหา reference แล้ว Google หาเอาได้เลยว่ามาจากที่ไหน ผมคงว่าเพื่อนที่ทำแบบนั้นไม่ได้ แต่คงต้องโทษระบบการศึกษาและลักษณะสังคมของเราที่ไม่ให้ความสำคัญกับทรัพย์สินทางปัญญาเท่าที่ควร และไม่ได้สอนให้เข้าใจถึงแก่นแท้ของการทำงานเช่นนี้ (เวลาทำรายงาน เราพยายามที่จะรวบรวมข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งแล้วทำความเข้าใจ วิเคราะห์ สังเคราะห์ แล้วเรียบเรียงด้วยถ้อยคำของเราเอง หรือ copy ข้อมูลมาแปะให้รายงานหนาที่สุดเท่าที่จะทำได้มากกว่ากัน?)
ผมก็เคยทำแบบข้อต้นบ่อย ๆ แต่พอได้อ่านบทความโดย Paul D. Rosevear ถึงเริ่มตระหนักได้ว่านิสัยการทำงานอย่างที่เราทำกันบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเพื่อทำให้งานนั้นเสร็จ ๆ ไปหรือเพราะไม่รู้ว่าวิธีที่เหมาะสมเป็นอย่างไร เป็นเพียงสิ่งที่ถูกปลูกฝังมาจากความผิดพลาดของระบบการศึกษาที่มองข้ามแก่นของกระบวนการเรียนรู้ตรงนี้ไป
อย่างไรก็ตาม เฉพาะตัวเอง ถ้ารู้แล้ว เราคงไม่ทำสิ่งที่ไม่ถูกต่อ เพียงเพราะมันง่ายกว่า... ใช่ไหม?
- From For Better or for Worse by Lynn Johnston.
1 December 2005
World AIDS Day 2005: Stop AIDS. Keep the Promise.
With calls to keep the promise, maybe it was time we asked ourselves...
"When was the last time we knew we cared?"
Once a year, we don red ribbons and talk of the actions we need to take.
But why then, 364 days a year, do we so easily seem to forget?
We talk about acceptance, we talk about sympathy.
But why then, do we shun AIDS sufferers every day in our lives?
Where's the promise?
We can make a difference.
3 November 2005
ชีท Dr/Soc...
สงสัยจะหายจริง ๆ ซะแล้ว...
(แต่มันหายไปไหนได้ไงเนี่ย)
21 October 2005
October 21 8:18 PM
(เผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต)
Paul_012 says:
กลับมาแล้วรึ: ขอจดหน่อย G D Em Bm7 C Bm7 Am D says:
yup
Paul_012 says:
เปงไง: ขอจดหน่อย G D Em Bm7 C Bm7 Am D says:
เมาค้าง
Paul_012 says:
...
Corpse Bride - คอร์ป ไบร์ด?
ก่อนที่จะอ่าน blog post นี้ กรุณาตอบคำถามต่อไปนี้ก่อน
- คุณรู้สึกว่าการสะกดชื่อ "คอร์ป ไบร์ด" มีอะไรผิดปกติไหม
- คุณไม่เคยใช้คำอย่าง "มั๊ย" "คลิ๊ก" หรือ"ลิ๊งค์" ใช่หรือเปล่า
- คุณหงุดหงิดบ้างไหมเวลาที่เห็นคนสะกดคำแบบแหวกแนว เช่น "นู๋"
- คำว่า "ฉันท์มิตร" สะกดผิดหรือเปล่า
ให้คะแนนข้อที่ตอบว่า yes โดยคะแนนเท่ากับเลขข้อ ถ้าคะแนนคุณน้อยมาก กรุณาตัดสินใจว่าจะอ่านต่อหรือเปล่า หรืออย่างน้อยก็ทำใจก่อนว่าอาจโดนกระทบบ้าง
เมื่อวันก่อนผมไปเห็นบอร์ด promotional โฆษณาภาพยนตร์เรื่อง Tim Burton's Corpse Bride ที่สถานีรถไฟฟ้า เห็นแล้วก็ยิ่งเศร้าใจว่าภาษาไทยของเราคงจะถึงกาลวิบัติเอาเข้าแล้วจริง ๆ
ถ้าคุณได้ 0 คะแนนข้างต้น ลองดูเปรียบเทียบกับคำที่คุ้นเคย ถ้ากีฬากอล์ฟ จะสะกดว่า "กอลฟ์" มันดูแปลก ๆ หรือเปล่า
คำว่า corpse จะไม่รู้ว่าจะสะกดเป็นภาษาไทยยังไงนี่ก็คงไม่ว่าอะไรกัน เพราะจริง ๆ แล้วภาษาไทยไม่สามารถออกเสียงสะกดที่มี 2 หรือ 3 เสียงอย่างนี้ได้ แต่ bride --> ไบร์ด นี่จะถ้าอ่านตามที่สะกดคงต้องอ่านว่า ไบ-ดะ เพราะ ร การันต์ ต้องไม่ออกเสียง ส่วนสระ ไ- ก็เป็นสระเกินที่มีตัวสะกดไม่ได้อยู่แล้ว
[In case it wasn't obvious to you] เป็นผมผมจะสะกดว่า "บรายด์" หรือ "ไบรด์" เพราะถึงในภาษาอังกฤษ dipththong แบบนี้จะมีเสียงสะกดอีกได้ แต่ในภาษาไทยเสียงเหล่านี้ถือว่ามีเสียงสะกดเป็นแม่เกย (หรือแม่เกอว ในกรณีอื่น) แล้ว จึงต้องใช้ไม้ทัณฑฆาตกำกับ ด เพื่อแสดงให้เห็นว่าใส่เอาไว้เพื่อให้รู้รากศัพท์ในภาษาเดิมเฉย ๆ แต่จริง ๆ แล้วในภาษาไทยจะออกเสียงได้แค่ บฺราย หรือ ไบฺร (พินทุที่จุดไว้ข้างใต้แปลว่าออกเสียงควบกล้ำ)
เผอิญกรณีนี้มันน่าอนาถใจมากเสียจนทนไม่ได้ แต่เรื่องน่าสลดใจจริง ๆ ที่มีให้เห็นทุกวี่ทุกวันก็คือการที่ดูเหมือนว่าคนจำนวนมากสมัยนี้จะไม่รู้จักไตรยางศ์เสียแล้ว (ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องที่เรียนมาตั้งแต่ก่อน ป.1) ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่อ่านอยู่คงจะทราบว่า กจฎฏดตบปอ เป็นอักษรกลาง ขฃฉฐถผฝศษสห เป็นอักษรสูง ส่วน คฅฆงชซฌญฑฒณทนพฟยมรลวฬฮ เป็นอักษรต่ำ และผมก็เชื่อว่าส่วนใหญ่ที่อ่านอยู่ก็คงจำได้อย่างน้อยก็คลับคล้ายคลับคลาว่าอักษรกลางผันวรรณยุกต์ได้ครบห้าเสียง ส่วนอักษรสูงกับอักษรต่ำผันได้ไม่ครบโดยอักษรสูงผันเสียงเอก โท จัตวา ได้ ส่วนอักษรต่ำผันเสียงสามัญ โท ตรี ได้ โดยใช้รูปวรรณยุกต์เอก โท (ไม่มี) และ (ไม่มี) เอก โท ตามลำดับ นี่ยังไม่ไม่คำนึงถึงแนวคิดที่ซับซ้อนขึ้นเช่นคำเป็นคำตาย
จริง ๆ แล้วผมไม่เชื่อหรอกครับว่าการใช้วรรณยุกต์ผิด ๆ ที่ผมเห็นทั่วไปจะเกิดจากความไม่ทราบ หรือลืม ในสิ่งที่เรียนรู้มาตั้งแต่ก่อน ป.1 จริง ๆ ไม่เช่นนั้นทำไมเพื่อนผมบางคนถึงจะยังพิมพ์คำว่า "ไม๊" หรือ "มั๊ย" ซ้ำแล้วซ้ำอีกแม้ว่าผมจะแกล้งว่าจนไม่มีทางที่เขาจะจำไม่ได้ ผมว่าตรงนี้หลายคนก็มีหลายเหตุผลแตกต่างกันไป ไม่ว่าอาจจะเพื่อแสดงความเป็นกันเอง ไม่เป็นทางการ เพื่อแสดงตนต่อต้านสังคม หรือเพื่อพยายามเรียกร้องความสนใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ ในกรณีเหล่านี้ถ้าทั้งผู้รับสารและผู้ส่งสารต่างก็รู้ดีว่าการใช้ภาษาดังกล่าวไม่ถูกต้อง และยอมรับไม่ได้ในกาลเทศะอื่น ผมก็ไม่เห็นว่าจะเกิดผลเสียอะไรมากมายตามมา (ถึงแม้ว่าผมจะไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับการใช้ภาษาดังกล่าวเลยก็ตาม) ยกเว้นเสียแต่ว่าถ้าคนอื่นที่ไม่รู้ประสีประสาเข้ามาอ่านแล้วก็ทึกทักเอาว่าเป็นการใช้งานที่ยอมรับได้ทั่วไป หรือถ้าการใช้เหล่านั้นแพร่หลายระบาดมากเสียจนควบคุมไม่อยู่ และทำให้เส้นที่แบ่งระหว่างการใช้งานที่ถูกต้องกับการใช้งานที่ไม่อาจยอมรับได้ในหลายกรณีต้องเลือนไป
แต่ที่ผมคิดว่าเป็นภัยมากกว่าคือเวลาที่การใช้งานผิด ๆ เหล่านี้ปรากฏออกมาในสื่อที่เผยแพร่สู่สังคมโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นป้ายชื่อร้านค้า โฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ ป้ายยักษ์ริมทางด่วน ปกนิตยสาร คู่มือประกอบการใช้งานสินค้า หรือเว็บเพจที่มีคนเข้าจำนวนมาก สื่อเหล่านี้นอกจากจะทำหน้าที่ได้ไม่สมบูรณ์แล้ว (ผมสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะไม่ไปรับประทานอาหารที่ภัตตาคารที่ชื่อ "โฮ่งโก่วฟู๋" เป็นอันขาด และพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สินค้าที่มีการโฆษณาแบบอัปลักษณ์ในทำนองเดียวกัน) แต่ด้วยปริมาณที่ออกสู่สายตาคนในสังคมอย่างล้นหลาม สื่อเหล่านี้ยังจะทำให้ความเข้าใจถึงการใช้ภาษาที่เหมาะสมของคนในสังคมต้องผิดไปได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง และนี่เอง เป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้เกิดความวิบัติแห่งภาษาของเรา
ผมไม่ได้กำลังกล่าวว่าผมเป็นคนเดียวที่ใช้ภาษาได้ถูกต้อง ขณะที่มองเห็นคนโง่ ๆ ทั้งหลายในโลกกำลังทำให้ภาษาของเราพังไป ผมเชื่อว่าในบทความที่ผ่านมาผมได้ทำให้เกิดความวิบัติของภาษาไปแล้วไม่น้อยกว่าสิบวิธี ไม่เฉพาะแค่การใช้สำนวนภาษาที่ซ้ำซ้อน วกวน เยิ่นเย้อ ปนภาษาต่างประเทศ หรือเป็นสำนวนที่ปกติไม่ควรใช้ในภาษาไทย
ผมเข้าใจและยอมรับว่าภาษาที่มีการใช้งานย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลง ผมจะขออ้างถึงข้อความจากหนังสือเรียน "วรรณลักษณ์วิจารณ์ เล่ม ๑" โดยกรมวิชาการ ที่กล่าวว่า
การเปลี่ยนแปลงของภาษาดังที่กล่าวมานี้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่จะต้องเกิดแก่ภาษาทุกภาษา แต่ผู้ใช้ภาษาก็ไม่ควรปล่อยให้ภาษาเปลี่ยนแปลงไปจนก่อให้เกิดผลเสียแก่การสื่อสาร เช่น ปล่อยให้เสียง ร หรือเสียงควบกล้ำหายไป คำที่มีเสียง ร ก็ออกเสียงเป็น ล เช่น คำ รัก ออกเสียง ลัก คำที่มีเสียงควบกล้ำ ก็ไม่ออกเสียงควบกล้ำ เช่น ปลา ออกเสียง ปา ผู้พูดและผู้ฟังก็จะเข้าใจไม่ตรงกัน สื่อสารกันไม่ได้ผล
ผมไม่ปฏิเสธว่าลักษณะของภาษาหลายประการนับวันดูจะเป็นสิ่งที่สร้างความยุ่งยากมากขึ้นและมีประโยชน์ลดลงเรื่อย ๆ ผมไม่คิดว่าในอนาคตอันไกลจะยังมีคนบ่นเรื่องการใช้วรรณยุกต์กับไตรยางศ์ไม่ถูกต้อง ผมเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงของภาษาต้องเกิดจากการใช้งาน ไม่ใช่การวางแผนหรือควบคุม (ลองนึกถึงสมัยจอมพล ป.) แต่ผมเชื่อว่าลักษณะของภาษาหลายประการที่ในปัจจุบันดูไม่มีประโยชน์ที่จะรักษาไว้หรือระมัดระวังในการใช้งาน ยังมีเหตุผลที่จะต้องมีอยู่ และใช้ให้ถูกต้อง
เพราะ ในวันนี้ คุณคงไม่อ่านคำว่า "บรายด์" เป็น ไบ-ดะ ใช่ไหมครับ
(เฉลยคำถามต้นเรื่อง เผื่อใครยังสงสัยอยู่: ควรจะสะกดว่า ไบรด์ หรือ บรายด์; การใช้วรรณยุกต์ควรจะเป็น มั้ย คลิก ลิ้งค์; ที่ถูกต้องคือ หนู; ที่ถูกต้องคือ ฉันมิตร)
17 October 2005
The world is not monochrome.
The New Resolve
ยังไงปีใหม่ก็อีกไกล วันนี้จะขอตั้ง resolution ที่จะพัฒนาชีวิตตัวเองเสียตั้งแต่บัดนี้
- คอมพิวเตอร์นี่มันดูดชีวิตเราไปเยอะเกินแล้ว ต่อไปนี้เลิกนั่งไม่ทำอะไรหน้าคอมโดยเปล่าประโยชน์เสียที เวลาเล่นเกม เอาให้พอประมาณ รู้ว่าเล่นเยอะจนหาย entertain แล้วก็เลิกเสีย จะเปลืองเวลาในชีวิต
- เวลารู้ว่า มีงานต้องทำก็อย่าดองเอาไว้จนเกินงาม ผัดวันประกันพรุ่งแบบทำอย่างอื่นที่อยากก่อนยังไม่เท่าไร แต่ผัดไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไรนี่แย่หนักแล้ว
- Circadian Reset: ไม่ให้ตื่นหลังหกโมงเช้าโดยไม่มีเหตุอันสมควรแล้ว
- ***เวลาตั้งใจจะทำอะไร ขอให้ทำให้ถึงที่สุด อย่าจับจด***
ป.ล. เหรียญ 2 บาท? ธนบัตรร้อยบาทแบบใหม่? ไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อนเลย?
สิ่งเดียวในโลกที่ยุติธรรม?
เคยได้ยินใช่ไหมครับ ที่ว่าในโลกนี้หายาก ที่จะมีอะไรที่ยุติธรรม แต่มีอย่างนึงที่ทุกคนได้เท่าเทียมกันแน่นอน คือเวลา ที่ทุกคนต่างก็มีวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน...
ลองไปถามไอน์สไตน์ดูสิครับ อาจจะได้คำตอบว่า 24 ชั่วโมงที่ว่าของแต่ละคนนั้นมันไม่ได้เท่ากันเลยสักนิด
โลกไม่ใช่ตาชั่งสักหน่อย จะได้มีความยุติธรรมให้ได้
12 October 2005
ราศีที่แตกต่าง
http://www.anu.edu.au/asianstudies/thai_time.html A technical problem arises with the terms ‘siderial’ and ‘tropical’ in (5.1) due to the precession of the equinoxes. The equinoxes are points on the ecliptic where the sun is located when day and night are exactly equal in length. The Spring or Vernal Equinox has been widely taken to be the starting point of the solar year. As Hipparchus (c. 150 BC) and other astronomers of antiquity realised, the equinoxes gradually slip backwards through the zodiac at the rate of about one constellation in two thousand years (50.3 seconds or arc per year). In terms of reconciling this fact with the establishment of zodiacal constellations, there are two possibilities for practical time-keeping purposes: (i) ignore the precession of the equinoxes and continue to note when the sun enters a particular star group; (ii) ignore the actual stars where the sun is located and instead continually redefine the sign relative to the shifting Vernal Equinox. Thus "Aries" can either mean either (i) the group of stars traditionally seen as the figure of a ram—the actual star group— or (ii) the 30-degree region of the ecliptic immediately following the Vernal Equinox—wherever that may fall. After adopting the Western (or Babylonian) zodiac, the Hindu astrologers opted for (i), while the Western astrologers opted for (ii). For India, this effectively stabilised the definition of the Greco-Hindu zodiac for a Vernal Equinox value of about 400 AD (near alpha Arietis), while the Western zodiac has continued to slip backwards, and is presently on the Pices-Aquarius line, in terms of actual stars. Incidentally, this difference can be interpreted as evidence for about 400 AD as the period when the 12-constellation zodiac came into widespread usage in India.โดยสรุปก็คือว่า เนื่องจากแกนของโลกมีการหมุนอย่างช้า ๆ (สาเหตุที่ทำให้ดาวเหนือเปลี่ยนดวง) วันวสันตวิษุวัต (vernal equinox วัน ที่กลางวันกับกลางคืนยาวเท่ากันในฤดูใบไม้ผลิ) ซึ่งสมัยก่อนนับเป็นวันขึ้นต้นปีใหม่ ก็เลยขยับถอยไปเรื่อย ๆ ทีนี้ก็มีคำถามว่าการนับปี ราศี จะยึดดาวหรือยึดวันเป็นหลัก ปรากฏว่าทางตะวันตกใช้ยึดวันวิษุวัตเป็นหลัก (โดยแบ่งราศีละ 30 องศานับจาก equinox) ขณะที่ทางฮินดูยึดการโคจรของดวงอาทิตย์ผ่านกลุ่มดาว ราศีของตะวันตกก็เลยขยับถอยมาเรื่อย ๆ จนปัจจุบันเลยตามหลังราศีของไทยอยู่ 23 วัน เป็นสาเหตุที่ สมมุติคนเกิดวันที่ 12 เม.ย. ดวงดาวของท่านก็จะตกอยู่ในราศีมีน เพราะดวงอาทิตย์โคจรผ่านกลุ่มดาวปลา แต่ถ้าดู Your Horoscope ก็จะเป็น Aries เพราะดวงอาทิตย์อยู่ในสามสิบองศาแรกหลังวันวิษุวัต ซึ่งเมื่อเกือบสองพันปีที่แล้วจะอยู่ในกลุ่มดาวแกะ ทีนี้ดวงอันไหนจะทำนายแม่นกว่ากันล่ะเนี่ย?
11 October 2005
17.5 cm
(รวม text ด้วยนี่ขาดครึ่งเมตรไป 2 cm)
8 October 2005
Some things need to be illustrated
20 September 2005
Lawsuits not the answer to proper compensation
แต่จริง ๆ แล้วตรงที่บอกว่าน่าจะปรับปรุงได้มันก็ไม่มีอะไรให้พูดถึงมากมายหรอก เพราะทุกคนก็รู้ว่าไอ้การฟ้องร้องอะไรกันนี่มันก็มีแต่เสียกับเสียทุกฝ่าย (ยกเว้นสื่อกับทนาย) ทั้งตัวผู้ป่วยเองก็ต้องเสียเงินเสียเวลาเสียแรงเสียกำลังใจ กับผลที่ได้จะเป็นยังไงไม่รู้ ตัวแพทย์โรงพยาบาลและหน่วยงานก็เสียเงินเสียเวลาเสียกำลังใจเหมือนกัน แล้วที่สุดแล้วผลออกมาถ้าศาลตัดสินให้ผู้ป่วย กว่าจะได้ compensation ก็ ไม่รู้ว่าไอ้ที่เสียหายตอนนั้นมันทำชีวิตพังจนหายกลับมาดีไปนานแค่ไหนแล้ว หรือเปล่า ถ้าศาลตัดสินให้แพทย์ ภาพที่ออกมาก็กลายเป็นว่าผู้ป่วยไม่ได้รับการชดเชยที่เป็นธรรม (ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของใครเลยก็ตาม)
ที่น่าสงสัยคือว่า ไอ้การจัดตั้งกองทุนหรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะดูแลให้ compensation กับ ผู้ป่วยอย่างรวดเร็วและทั่วถึงโดยไม่จำกัดว่าเหตุของความเสียหายนั้นเกิด จากอะไรมันจะยากเย็นแค่ไหนในการที่จะทำได้ จะต้องให้เวลา พลังงาน และแรงใจของทุกฝ่าย (ยกเว้นสื่อกับทนาย) ต้องสูญเสียไปอีกเท่าไรกันเชียวกว่าที่มันจะเกิดขึ้น หรือว่าจะเป็นเพียงอีกความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้บนโลกใบนี้...
4 September 2005
อ๊ะ...
โอ่ว... มันได้จริง ๆ ด้วย...
รอแค่ไม่กี่เดือนเอง...
3 September 2005
September 03 8:15 PM
27 August 2005
Hey, one-two-three Anatomy ก็เบ ๆ แค่อยากจะบอกว่าไม่ได้โม้ พอเจอ Histo แล้วโมเม...
แต่ยังเคืองเรื่องเช็คชื่อ Ethics อยู่... ก็ในเมื่อวิชาที่ต้องการปลูกฝังจริยธรรมยังต้องวัดผลด้วยวิธีการที่สื่อว่า ความตั้งใจเข้าเรียนของคนดูเพียงจากการเซ็นชื่อแล้ว มันจะทำสำเร็จได้อย่างไรกัน...
เดี๋ยววันจันทร์ไปทำสงครามต่อ ฮึ่ม...
เรื่องบรรยายก็เห็นด้วยกับเบิ้ลนะ... (แต่ก็ไม่ได้ anti ขนาดนั้น)
ขอโทษที่ต้องหนีออกมาก่อนแล้วกัน แต่ก็ยังไม่ได้โหวตกันนี่... (ที่จริงเรารู้สึกผิดที่ออกมาก่อนนะ... แต่ก็... เรื่องเดิม ๆ หรือเปล่า ขี้เกียจพูดแล้ว)
ขอโทษกอล์ฟสิกฤษฏ์ด้วยที่ไปช่วยงานเปิดรั้วโรงเรียนแพทย์ไม่ได้...
โต้วาที... น้อง ๆ พูดกันดีมาก ๆ เลย... (บึนทึกเสียง (ทีแรกจะเรียกอัดเทปแต่ก็คงผิด) ไว้นะ ถ้าใครอยากฟัง) ขอแสดงความยินดีอีกครั้งที่ได้เข้ามาถึงรอบนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี...
แต่ขอเล่าตรงนี้...
สิ้นเสียงของพิธีกรที่กล่าวปิดงานโต้วาทีน้องใหม่ ประจำปีการศึกษา 2548 ไป ผู้ชมแต่ละคนต่างทะยอยลงไปหน้าเวทีเพื่อแสดงความยินดีกับน้อง ๆ... พอหันไปจะถามเกดว่าจะเอายังไงต่อ แต่เกดก็ได้แทรกตัวลงไปถึงเก้าอี้แถวล่างสุดแล้ว หลังจากที่พอตามลงมาถึง และสบโอกาสที่น้องว่างจากการถ่ายรูป เกดก็รีบบอกลาอย่างรวดเร็ว และลงท้ายว่า "ขอไปก่อนนะ เดี๋ยวไปดู Singing" พอกับแป้งกล่าวทำนองเดียวกันและทั้งสามคนก็พากันวิ่งย้อนกลับขึ้นไปด้าน หลังห้องประชุม 101 คณะครุศาสตร์ และมุ่งตรงออกไปยังถนนพญาไท
"เมื่อกี้เบิ้ลบอกว่าอีก 3 เพลงจะขึ้น" เกดพูด "นี่โทร.มากี่นาทีแล้วเนี่ย..." ท่าทางเธอเครียดขึ้นเรื่อย ๆ
"จะไปยังไง ๆ" แต่ละคนผลัดกันถามเมื่อก้าวออกประตูฝั่งครุฯ
"ฝากของไว้แล้ววิ่งไปเลยมั้ย" พอเสนอกึ่งจะเล่น ๆ หลังรอแท็กซี่มาประมาณครึ่งนาที แต่รู้สึกเหมือนราวสิบนาทีได้
"นั่นไง ตุ๊กตุ๊ก"
"เรียกเลย ๆ"
"โรงพยาบาลจุฬาค่ะ เหยียบเลยนะคะพี่" แป้งบอกกับคนขับ ขณะที่ต่างตะเกียกตะกายกันขึ้นรถ
แต่รถก็ขับออกมาได้ด้วยความเร็วไม่เท่าไร เพราะยังอยู่ท่ามกลางการจราจรบนถนนพญาไทหน้าประตูใหญ่จุฬาฯ ขณะที่รถเลี้ยวผ่านหน้าสระน้ำไปได้นั้น พอก็พยายามพลิกรายชื่อหมายเลขโทรศัพท์เพื่อติดต่อ (PCT เมมได้ 50 เบอร์) ขณะที่แป้งพยายามโทร.หาไผ่และอีกหลายคน ซึ่งต่างปิดโทรศัพท์ไปแล้ว
"ฮัลโหลเบิ้ล..." ปรากฏว่าพอโทร.ติด
"ตอนนี้พิเชฐเริ่มร้องแล้ว" เกดบอก หลังจากวางสายที่พอยื่นให้คุย "ยังไงก็ไปทันแหละ อย่างน้อยก็ทันกลางเพลงแน่ ๆ"
ตอนนี้ที่ทำได้ก็เหลือแต่ภาวนาให้ไปถึงเร็ว ๆ
แต่พอเลี้ยวออกจากประตูอักษรฯ ได้ พี่คนขับก็ทำตามคำเรียกร้องของแป้งทันที
บรึ้น... ลมปะทะใบหน้าแต่ละคนด้วยความเร็วเกือบ 100 km/hr อีก 20 วินาทีต่อมา รถก็เลี้ยวเข้าประตูมาจอดหน้าทวีวงศ์
"เท่าไรคะ พี่" แป้งรีบจ่ายค่าโดยสารโดยไม่คิดจะเสียเวลาต่อราคา ขณะที่พอรีบก้าวลงจากรถมาแล้ว
ประตูตึกอบรมวิชาการเปิดกว้างอยู่ แสงไฟสว่างไสว
"เสียงพิเชฐ!" แป้งว่า ขณะที่พากันวิ่งไปหาตึกอบรมวิชาการ ราวกับเป็นโอเอซิสกลางทะเลทราย
...
"มีแต่เสียงเพลงที่ว่างเปล่า จบลงแล้วความรักของเรา
ไม่มีเขาเคียงข้างอีกแล้ว ไม่มีคืนวันที่สดใส
ดื่มให้ตัวเองอีกที กับรักที่เพิ่งผ่านพ้นไป"
พิเชฐร้องจบลงพร้อมกับกองอัศวพักตร์มหาศาลที่กรูกันเข้าไปพร้อมกับดอกไม้สายไฟต่าง ๆ นานา...
และก็จบลง กับความลุ้นระทึก... กว่าจะได้ฟัง highlight ของงานวันนี้...
"โรคประจำ Block"
- ป.ล. วันนี้ให้พ่อมารับ เลยได้อยู่ฟังจนดึก... ที่ติดใจที่สุดคือ "นาย" (จำชื่อไม่ได้~) จากคณะอักษรศาสตร์ (ที่มาร้องแข่งกะไอซ์) สุดยอด ไม่ไหวแล้ว... ร้องได้ไง~
- ป.ป.ล. ตอนพักครึ่ง... ไม่ไหวแล้ว... มดเต็มเวที...
20 August 2005
August 20 1:33 AM
รูปทริปก็โพสท์แล้วนิดหน่อย... (เท่านั้นแหละ) ส่วนที่บอกว่าจะบ่นข่าวหน้า 15 ที่ จริงก็ไม่มีอะไรหรอก อันนี้ก็มีแต่ประเด็นที่น่าสงสัยว่า ข้อสอบเอ็นทรานซ์ ออกเกินหลักสูตรจริงหรือ? หรือว่าโรงเรียนสอนครบตามหลักสูตรหรือเปล่า? หรือโรงเรียนสอนเกิน ข้อสอบก็ออกเกิน เราเลยไม่รู้?
ช่างเถอะ เรื่องนี้ขี้เกียจพูดแล้ว...
เมื่อวันพุธ เพิ่งสังเกตว่าสัญญาณไฟคนข้ามมันเปลี่ยนใหม่ เป็นเวลาคนเดินสีเขียวแล้วดุ๊กดิ๊กได้... แต่ก็ยังต้องรอรถว่างทั้งสองข้างถนนถึงจะเขียวให้ แม้ว่าจะมีไฟตรงกลางถนนอยู่ดี...
แต่พูดถึงปัจจุบัน...
อาการไม่ค่อยดีตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้ว... เพิ่งวันศุกร์เย็นก็ดันรู้สึกไม่อยากให้ถึงวันจันทร์ซะละ... เตร็ดเตร่ไร้สาระอยู่ในคณะถึงหกโมงกว่าจะกลับบ้าน... (นิสัยเก่าตอน ป.5) รู้สึกอยากหยุดเวลา... ไม่ต้องคิดถึงอนาคต... ไม่ต้องคิดถึงอดีต หรืออะไรทั้งสิ้น... แต่ก็... รู้อยู่ว่าสิ่งเดียวที่ทำได้คือยอมรับความจริง...
ไปนอนดีกว่า... ใครจะรู้เช้าวันใหม่จะพาความสดใสอะไรมาให้ได้บ้าง...
Don't let die inspirations.
19 August 2005
Photo Trip 2005
อัพโหลดรูปที่ถ่ายมานิดหน่อยแล้วนะ... แต่ขี้เกียจเล่าอะไรแล้ว ตามไปอ่านของท็อปแล้วกัน~
15 August 2005
กะจะไม่ออนแล้วนะ...
ยังโดนโทรเรียกมาหลอกใช้อีก ฮึ่ม...
ต้องอ่านหนังสือ ๆ
ไว้วันหลังค่อยมาลงรูปที่ไปเที่ยว + บ่นข่าวหน้า 15 อีกนิดหน่อยแล้วกัน...
12 August 2005
สอบเสร็จ... (เดี๋ยวก็สอบอีก...)
ขี้เกียจพูดถึงเรื่องเรียนละ... เล่าให้ฟังว่าช่วงที่ผ่านมามีอะไรบ้างดีกว่า...
- ก็อย่างที่เห็นบอกไปแล้วว่า harddisk เจ๊ง... ก็ซื้อใหม่
- ผลสอบเปียโน... ปรากฏว่าผ่าน (อย่างน่าอนาถ) ได้คะแนนจากเพลงซะเกือบทั้งหมด... เดี๋ยว 9 คนที่ comment ตรงนั้นจะให้เลี้ยงอะไรบอกแล้วกัน...
- ICT Expo... ไม่ได้ไปดู... (ยังขอใช้ PCT ไปก่อน... เดือนที่แล้วไม่ถึง 200 อีกแล้ว)
- แล้ววันจันทร์ที่ผ่านมา ทำกระเป๋าสตางค์หล่นบนรถตู้... ยังเคราะห์ดีมีคนเก็บคืนให้ (ขอบคุณครับ)... คราวหน้าจะไม่ขึ้นรถตู้แล้วจริง ๆ (ถ้าไม่ได้นั่ง ก็คงไม่ทำกระเป๋าตังหล่น)
- แล้วเมื่อวานโดนยึดบัตรนิสิต... ~ ~ ดู เป็นใครก็ไม่รู้ฝ่ายกิจการนิสิตก็ไม่ใช่ มายึดบัตรไปซะงั้น... (ตู้ ATM)
- เมื่อวานสอบเสร็จ... ก็ไปชมรมวาทศิลป์ (เรื่องโต้วาที) แล้วไป MBK (เพิ่งเคยเห็นรูปปั้น "มา" กับ "บุญครอง" ตรงทางเข้า) (แป้งจะไปดูต้มยำกุ้ง... (บ้านไอไผ่เรียกเกาเหลาใส่พริก)) เจอเปล่งฉัตร กับ ลิซ่า (ไอ้คนที่ได้ perfect SAT score น่ะ) ซึ่ง 2 คน เห็นเราเป็นโทรศัพท์สาธารณะ...
ไม่มีอะไรละ ขอจบโดยการร่วมรำลึกการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ 2 ครบ 60 ปี...
แถมรูปกองหนังสือ + ชีท ในการสอบที่ผ่านมา...
- ป.ล. มีเรื่องปรับคณะรัฐมนตรีด้วย ลืมไป (นี่เราเป็นกบเลือกนายหรือเปล่าเนี่ย)
- ป.ป.ล. พูดเรื่องสอบนิดนึงก็ได้... ท่าทางโอกาสจะได้ A 1 ใน 3 บล็อคแรกจะน้อยทีเดียว... ตอนสอบเล่นเข้าไปทำโดยที่หัวปลอดโปร่ง (จากความรู้ใด ๆ) แล้วก็ทำเสร็จก่อนเวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เพื่อ... นอน ~ (ตื่นอีกทีเพื่อส่งข้อสอบ)
- แต่จะเปลี่ยน lifestyle แล้วนะ...
24 July 2005
HDD เจ๊ง~!
ลงหลุมไปแล้ว...
แต่ก็... นะ ที่จริงเริ่มได้ยินเสียงผิดสังเกตมาพักนึงแล้วล่ะ แต่ก็ได้ backup ไปแต่ documents ยกเว้น lecture ทั้งหมดที่ผ่านมา ทั้ง ppt และ wav ~
เฮ่อ...
20 July 2005
อดทนเวลาที่ฝนพรำ...
ที่จริงเราไม่ค่อยได้อะไรกับเพลงนี้เท่าไรหรอก เพราะจริง ๆ แล้วก็แอบชอบบรรยากาศฝนตกปรอย ๆ อยู่
แต่ก็... นะ (สำหรับคนที่ไม่ทราบ วันนี้สอบ lab กริ๊ง... กริ่งกระชากวิญญาณ (แต่ขออนุญาตไม่พูดถึง... จะเลี้ยงปลาแล้ว ฮือ ๆ))
จริง ๆ แล้วเดินมาทางนี้แล้ว เท่าที่ได้ยิน เขาบอกว่ามันจะมีแต่ฝนตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ
แต่เอาเถอะ ถ้าไม่จมน้ำท่วมตายซะก่อน ยังไงก็คงต้องเจอฟ้าบ้างแหละน่า...
-----
ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่เพลงนี้เป็นเพลงนึงที่คีย์เข้าไปตอนไป Blacklight วันนี้ (ไปเป็นตัวหาร... หรือเปล่าหว่า?)
ซึ่งก็ไปเจอพี่พีท และผอง New Track จำนวนล้นหลาม นาย แล้วก็ อาร์ท น็อต ฯลฯ
ที่จริงวันนี้เจอใครต่อใครเยอะนะ...
ก็หลังจากไปถวายสังฆทานกะเกดอู้นุปองท็อปเบิ้ล ข้ามกลับมาสยามก็เจอน้องยูไม่หลีด มาถึงลิโด้ก็เจอเหล่าพี่นิวแทร็ค กะกลุ่ม Dhoom ไปศูนย์หนังสือจุฬาก็เจอเค้กครีม (ซึ่งเดินสำรวจราคา Half-Blood Prince ทั่วสยาม) ปกป้อง เอธยา (รายนี้ที่จริงไม่ได้เจอ แต่ให้ความอนุเคราะห์ยืม HBP มา ขอขอบพระคุณมากครับ)
เท่านั้นยังไม่พอ... ออกมาจะกลับบ้านก็เจอโอ้กะเก่ง (ซึ่งยังไม่คืน Wade เรา) แล้วก็ตุลย์
อะไรมันจะขนาดนั้น...
เลยโดนหลอกขึ้นรถเมล์ไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเลย... (แต่ก็แปลกดี วันก่อนวันหยุดสี่วัน รถไม่ติดเท่าไร (หรือว่าเพราะมีขบวนเสด็จ?))
(กลับบ้านมานึกขึ้นได้... โอ้ทำให้เราไม่ได้เอาแว่นไปซ่อม)
ยังมีอีก ๆ วันนี้ได้ตั๋วรถเมล์เบอร์ 2821283 (เลขข้างเคียงเลขสวย)
อย่างน้อยวันนี้ก็คงไม่เลวร้ายเสียเกินไป...
หรือเปล่า?
-----
ป.ล. ช่วยกันภาวนาให้เอ้ไม่ต้องซิ่วด้วยนะ...
14 July 2005
One Rotten Day
วันนี้เป็นวันหนึ่งที่มีสิ่งไม่สบอารมณ์มากมาย...
แต่เอาเถอะ...
บางทีมันอาจจะเป็นอารมณ์ของเราเองที่ไม่สบกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น?
อย่างน้อยเราก็ยังมีครอบครัวที่เรารัก และรักเรา
อย่างน้อยชีวิตของเราก็ยังมีความสุขกว่าผู้คนบนโลกอีกมากมาย
อย่างน้อยพรุ่งนี้ก็คงสดใสกว่าวันนี้...
ป.ล. ถึงโต๊ะ lab 26: ไม่ให้ยืม Netter แล้วนะ
28 June 2005
เซ็ง...
เสียเวลาเปล่าจริง ๆ...
รู้งี้เอาเวลาซ้อมไปนั่งอ่าน upper limb ดีกว่า
ผ่านนี่เลี้ยง 20 คนแรกที่เข้ามา comment เลย...
18 June 2005
รับน้อง... (ตามกระแสเปล่าเนี่ย)
ไอ้เรื่องนี้นี่มันดูจะร้อนแรงเสียเหลือเกิน... ขนาดไม่อ่านหนังสือพิมพ์แล้วก็ยังมาให้ได้ยินอีก...
ที่จริงชักขี้เกียจ... แต่ไหน ๆ ก็สัญญาไว้แล้ว (ว่าจะมาเขียนเรื่องนี้)...
ตามจริงนะ ตอนแรกตอนที่มีปัญหา ที่ สกอ. ออก หนังสือที่ ศธ 0508/ ว 856มา นี่ก็เห็นแล้วอารมณ์เสียทีเดียว ตอนนั้นก็คิดอยู่ว่ามันจะงี่เง่ากันไปถึงไหน... เพราะ
1. ใครที่ไหนมาบอกว่าไอ้คนที่ฆ่าตัวตายนั่นเป็นผลมาจากรับน้อง
2. แล้วถึงจะเกี่ยวข้องกันจริง ทำไมต้องให้อีกหลายแสนคนที่รับน้องแล้วไม่ฆ่าตัวตายมีปัญหาไปด้วย (ถ้าต้องฆ่าตัวตายจากการรรับน้องมิมีหวังต้องฆ่าตัวตายอีกหลายสิบครั้งเมื่อออกไปเผชิญชีวิตหรือ?) อย่างที่คนเล่นหุ้นแล้วฆ่าตัวตายกันบานเบอะ ไม่เห็นคิดจะสั่งปิดตลาดหลักทรัพย์บ้าง?
แต่... เอาเถอะ... ยังไง ไอ้เรื่องนี้ มาคิดดี ๆ แล้วก็น่าเห็นใจหลายฝ่าย...
-----
อย่างแรก คงต้องเห็นใจความรู้สึกของครอบครัว ที่ต้องพบกับความสูญเสียอย่างที่ไม่คาดคิด ความจริงก็คงตำหนิครอบครัวไม่ได้ ที่จะตีโพยตีพายเอาว่าการรับน้องทำให้คนต้องฆ่าตัวตาย ก็ในเมื่อยังอยู่ในความโศก
ทีนี้ พอมีกระแสข่าวออกมา ก็คงต้องมองสื่อมวลชนเป็นสำคัญ... แต่ก็อีกน่ะแหละ สื่อก็เพียงแต่ขายข่าวไปตามงานของเขา เรื่องอะไรที่ขายออก ถ้าไม่ประโคมให้มันดัง แล้วจะทำธุรกิจอยู่ในตลาดได้อย่างไรกัน... ความจริง ถึงแม้สื่อจะเสนอข่าวโดยไม่ให้ความกระจ่างแก่สังคม ถึงแม้สื่อจะวาดภาพให้สังคมอย่างชัดเจนเหลือเกินว่าผู้ที่ตายนั้นเพราะเป็นเหยื่อของการรับน้อง ถึงแม้ว่าสื่อจะทำลายภาพพจน์ของกิจกรรมรับน้องที่ดีงาม (ไม่เช่นนั้นจะยังมีอยู่ในสังคมถึงปัจจุบันได้อย่างไร) โดยการเสนอแต่ด้านลบให้สังคมได้เห็น แต่การที่เรื่องนี้ได้กลายเป็นข่าวขึ้นมาก็คงไม่ใช่ว่าจะมีแต่ผลเสีย... ความจริง กรณีนี้คงเป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยให้ได้ชำระการจัดกิจกรรมรับน้องให้สวยงามและสร้างสรรค์ขึ้น อย่างที่ควรจะเป็น...
ทีนี้ ในส่วนของผู้บริหารในกระทรวงและมหาวิทยาลัย ถ้ามองดูแล้ว ก็น่าเห็นใจ และเข้าใจได้บ้างถึงความจำเป็นที่ต้องมีประกาศและมาตรการต่าง ๆ ออกมา เพราะอย่างที่ข้อความบางส่วนในหนังสือที่ ศธ 0508/ ว 856 กล่าวว่า ด้วยปรากฏว่า การจัดกิจกรรมสำหรับนิสิตนักศึกษาใหม่ในปีการศึกษานี้ ได้เกิดเหตุการณ์หลายกรณีดังที่ปรากฏในสื่อมวลชนต่าง ๆ จนก่อให้เกิดความวิตกกังวล...
และ ... ขอให้ผมประสานมายังมหาวิทยาลัยทุกแห่ง เพื่อให้ข้อวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อมวลชนยุติลงโดยเร็ว และเป็นการกู้ภาพพจน์ของอุดมศึกษาไม่ให้ถดถอยลง...
ก็สะท้อนให้เห็นว่า มาตรการที่ออกมาดังกล่าว ก็คงเนื่องมาจากความเสียหายที่มีบางสถาบันก่อให้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้...
ถึงแม้ว่าผมจะไม่เห็นด้วยกับการที่ท่านเลขาธิการฯ ... เห็นควรให้มหาวิทยาลัย/สถาบันได้สั่งยุติกิจกรรมสำหรับปีนี้ลงตั้งแต่บัดนี้...
หรือที่รองอธิการบดีฯ ... ห้ามจัดกิจกรรมที่ต้องค้างคืนในมหาวิทยาลัย...
หรือ ... ไม่อนุญาตให้จัดกิจกรรมนิสิตนอกสถานที่...
(น่าสงสารแพทกับพี่เบิ้ล... โดนลูกหลงไปส่วนนึง ทั้ง ๆ ที่นอกสถานที่ไปได้ 500 เมตร) แต่ก็คงต้องยอมรับว่าการที่ ... กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้กำหนดนโยบายและมาตรการในการรับน้องใหม่และประชุมเชียร์ในสถาบันอุดมศึกษา...
และทางมหาวิทยาลัยก็ได้กำหนดนโยบายการจัดกิจกรรมมาอย่างชัดเจน ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี...
อย่างน้อยก็เป็นการป้องกันเหตุการณ์ที่จะทำให้เกิดจากกระแสข่าวเช่นนี้ในอนาคตได้บางส่วน...
และที่จริง กิจกรรมรับน้อง ก็รอการจัดระเบียบมาสักพักนึงแล้วมิใช่หรือ
ถึงแม้จะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด ถึงแม้จะทำให้หลายฝ่ายต้องเสียกำลังกาย กำลังใจไปฟรี ๆ ถึงแม้อาจจะทำให้งานที่บางคนทุ่มเทมานับเดือนนับปีต้องพังทลาย...
แต่ก็คงมีผลดีเกิดขึ้นบ้าง... ใช่ไหม?
-----
12 June 2005
Chem lab?!
เมื่อกี้ เปิดเว็บ สทป. กะ confirm ว่าลงทะเบียนครบอีกที...
เปิดผ่านไปดูตรง ผลการศึกษา...
เอ๊ะ?!!
CHEM LAB MED STUDT จำได้ว่าได้ B+ ไม่ใช่เหรอ ตอนนั้น?
กลับไปดู CR60 อีกที... อ้าว ไหงเป็น A จริง ๆ ด้วย?
นี่เราจำผิดเหรอเนี่ย...
9 June 2005
มหา'ลัยเหมืองแร่
วันก่อน (วันเสาร์ที่แล้ว) หลังห้องเชียร์, สันท์, ประชุมงาน present เราก็หลวมตัวไปดูหนังกับพิเชฐ ไผ่ ต้อง เจน อ๊อก
ไม่มีอะไรหรอก~ แต่บอกใครก็มีแต่คนแปลกใจ (ท็อปถามว่า "ลมอะไรพัดไปเนี่ย") แต่ที่สุดยอดคือ...
เข้าดรงไป... เดินขึ้นบันไดหันมา เห็นโลโก้ DPrompt สีแดง ๆ แว้บนึงแล้วก็หายไป หนังเริ่มฉายพอดี! ไม่มีใครกะเวลาได้สุดยอดเท่านี้อีกแล้ว...
หนังก็... เราว่าก็ดีนะ แต่ที่จริงเราก็เป็นพวกแบบวิจารณ์หนังอะไรดีไม่ดีไม่เป็นอยู่แล้ว... - -
6 June 2005
F4809A
วันนี้แอบรีบโดดออกมาจากคณะเร็วนิดนึง... ไปปฏิบัติการตามล่าหาแบตเตอรี... (ที่สุดแล้วคือนั่ง MRT ไป Fortune) แต่สิ่งที่เด็ดจนต้องเอามาเขียนในนี้คือนี่...
ก็ ขึ้นรถตู้จากหมอชิต/สวนจตุจักร ทีแรกก็ไม่ได้สังเกตอะไรหรอก แต่ไม่รู้ค่าโดยสาร ก็เลยมองหาป้ายเผื่อจะมี แต่ป้ายที่ติดไว้บนรถมันบอกว่าอย่างนี้...
- อย่านั่งขวางทางคนอื่นไม่ต้องกลัวลงช้า
- กรุณาอย่าส่งเสียงดังเพราะเวลามีคนลงจะไม่ได้ยิน
- นำอาหารมาทานช่วยเก็บกลับลงไปด้วย
- ห้ามมาทำกิ๊กกันบนรถอย่าคิดว่าไม่มีใครเห็นคุณ
- ลงช่วยบอกเสียงดังๆ ไม่ต้องอายจะได้ไม่เลยป้าย
ขอบคุณที่ใช้บริการ
ที่จริงก็ไม่มีอะไรมากหรอก แต่มันแปลก/ขำดี เลยจดมา...
แต่วันนี้... จะกดตังไปซื้อแบต... ก็ไป ATM... มีคนใช้อยู่ 1 คน เราก็ต่อคิว... ปรากฏว่าเค้าคงกะทำธุรกรรมประมาณ 20 รายการได้บนเครื่อง ATM... รออยู่ร่วมสิบนาที... ด้วยความที่มารยาทดี/ป๊อดไปหน่อย ก็เลยไม่กล้าขอเค้าแซง... (อันนี้ก็ไม่มีอะไรหรอก แต่เพิ่งจะได้ประจักษ์ว่าคนเราสามารถทำธุรกรรมบน ATM ได้นานขนาดไหนก็คราวนี้...)
30 May 2005
เปิดเทอม...
วันนี้เช้าจะเปิดเทอมแล้ว... T_T
เมื่อวานช่างเป็นวันสุดท้ายของปิดเทอมที่ไร้สาระเสียนี่กระไร ทีแรกกะจะจัดของบนโต๊ะให้ดูดีหน่อยก็... นั่งเล่นเกมทั้งวัน...
เมื่อกี้ดูถึงลูกถึงคนวันที่ 24-25... จนจบแล้วเหลือเรื่องคาใจอยู่อย่าง...
สรุปว่า ชาติพลี มันต้องร้องยังไง...
จำได้ว่าตั้งแต่เด็กก็เคยเรียนมาว่าให้ร้อง [ชาด-พะ-ลี]... ทีนี้ถ้าของเดิมมันร้องว่า [ชาด-พฺลี] แล้วทำไมถ้ายึดความหมายแล้วถึงควรจะเป็น [ชาด-พะ-ลี] มากกว่า?
คิด ๆ ดู... [พะ-ลี] เป็นคำนาม ส่วน [พฺลี] เป็นกริยา... แล้วประโยคมันว่า สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี คำที่ตามหลังเป็นก็ต้องเป็นส่วนเติมเต็ม... ก็น่าจะต้องเป็นคำนามหรือเปล่า แต่ทีนี้ถ้า ชาติพลี เป็นคำสมาส มันก็น่าจะต้องอ่าน [ชาด-ติ-พะ-ลี] มันก็กลายเป็นว่าไม่ตรงอยู่ดี?
หรือสรุปแล้วไม่ว่าจะร้องยังไงให้เป็นความหมายไหน มันก็ต้องให้มีการ compromise ภาษาอยู่ดี?
แต่จริง ๆ แล้วเราไม่ค่อยชอบเวอร์ชันอนุกรรมการเอกลักษณ์ฯ เท่าไรเลย... รู้สึกที่เคยเปิดในวิทยุกระจายเสียงก่อนหน้านั้นฟังดูรื่นกว่า (อาจจะเพราะคุ้นเคยมั้ง แต่ก็รู้สึก tempo อันใหม่มันเร็ว...)
(เพราะที่จริงรู้สึกเดิมวิทยุก็จะเปิดเหมือนกันอยู่แล้วหรือเปล่า ส่วนโทรทัศน์จะต่างกันแต่ละช่อง ตอนนั้นที่รู้ว่ามันเปลี่ยนก็เพราะบังเอิญได้ยินในวิทยุโดยไม่ได้ตั้งใจเนี่ยแหละ เพราะโรงเรียนไม่ยอมเปลี่ยนเทป...)
ไปนอนดีกว่า... เดี๋ยวตอนเช้าจะไม่ไหวเอา
26 May 2005
Moving...! (note from WLS)
ก็อย่างที่เคยบอกใน blog ที่ Blogger ว่าเลิกเขียน log รายวันแล้ว... ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ย้ายมานี่ซะเลย... เผื่อไอ้ดอกจันสีเหลือง ๆ จะทำให้มีคนสนใจมากขึ้น... (ฝันไปเถอะ) แล้วยังไง ตอนแรกก็เลียนแบบ NuttyGM อยู่แล้ว... ก็เปลี่ยนมาใช้ไอ้นี่ตามมั่ง...
ยังไงขยายความอีกที... ที่ discontinued daily logs ก็เพราะ... เดิมที่เริ่มเขียน ตั้งใจจะให้สาระมันอยู่ตรง quotes of the day เทือกนั้น แต่ไป ๆ มา ๆ ไอ้ตรงที่กะจะให้เป็นประเด็นสำคัญน่ะ มันจำไม่ได้ ก็เลยละทิ้งไปบ่อย ๆ ซะงั้น... ก็เลยคิดว่า เลิกดีกว่า เอาไว้บ่นเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อยดีกว่า... ก็เลยสบโอกาสที่จะย้ายมาที่นี่บ้าง...
Moving...!
16 May 2005
Comments for แนะแนววิชาเลือก... โอ๊ยยย~
แนะแนววิชาเลือก... โอ๊ยยย~
รู้สึกซึ้งในน้ำใจเพื่อนจริง ๆ ก็ครานี้...
ทั้งชั้นปีเรา 225 คน
ช่วยเขียนส่งมาให้ถึง 27 คน~
(ที่บอกซึ้งในน้ำใจเมื่อกี้คือออกประชดนะ)
คือไม่ได้อยากจะว่ากันหรอก ที่ไม่ได้เขียนมาให้ ที่จริงมันก็ความผิดเราเองที่มัวนั่งอู้ (ความแปรปรวนทางอารมณ์) แล้วไม่ตามจิก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ (ใช้ไม้ยมกผิด อย่าเอาเป็นตัวอย่างนะครับ) เพราะทีแรกก็กลัวว่าจะได้มาล้นหลาม...
แล้วที่ว่าล้นหลามนี่ก็ไม่ใช่ไม่มีเลยอยู่ดี... เพื่อน ๆ บางคนก็เขียนมาให้เป็นหน้า ๆ... (บางอันก็ครึ่งบรรทัด) ยังไงก็ขอบคุณเพื่อน ๆ มาก ๆ
ยังไงก็ช่วยให้เรารู้ว่า "เราทำงานนี้นะ ได้เห็นว่าเพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือกันล้นหลามขนาดไหน... แต่เวลางานของเพื่อนคนอื่นล่ะ ได้มองย้อนกลับไปดูหรือเปล่าว่าตัวเองให้ความร่วมมือกับเขาอย่างที่เราต้องการให้เขาให้ความร่วมมือเท่าไร"
ข้อความเมื่อกี้เป็นสิ่งที่อยากให้เพื่อน ๆ ได้คิดดี ๆ... บางคนอาจจะไม่เคยประสบเอง เพราะไม่เคยเจองานที่ต้องการความสนใจของคนอื่นสักเท่าไร แต่เราอยู่ในโลกด้วยกัน ยังไงสักวันเราก็ต้องการความช่วยเหลือของผู้อื่นใช่ไหมล่ะ... อย่างน้อยเราก็น่าจะทำให้ดีที่สุดที่จะให้บอกได้ว่าเราช่วยเขาก่อนแล้ว...
เหมือนตั้งใจจะว่าใคร แต่ไม่ใช่นะ... แค่อยากจะเตือนกันเฉย ๆ (รวมถึงตัวเองด้วย)
-----
มีหลายอย่างที่อยากบอกกับจุฬา แต่ยังบอกไม่ถูกว่าคืออะไร... จะพยายามเรียบเรียงความคิดนะ...
Daily logs discontinued.
11 May 2005
Today's Log - 11/5/2005
- วันพระราชพิธีพืชมงคล และจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
Reached home: c.20:15
Travelled: สยามดิสฯ
Activities
- นั่งแก้ address book ต่อ... (import มา outlook แล้วทำให้ชื่อมันเพี้ยน) 495 items นี่... เมื่อไรจะเสร็จเนี่ย (ยังไม่ได้ใส่ชื่อเพื่อนที่คณะเลย จนครบปีแล้ว)
- ไม่มีอะไร
- "เรื่องมากฉิบ" - แบงก์ฉัตร
อุปาทวจักร ของมหาวิทยาลัย
ก็... ปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งที่เกี่ยวกับการเอ็นทรานซ์ก็มาจากทัศนคติของสังคมต่อมหาวิทยาลัยเอกชน คือใคร ๆ ก็มองว่ามหาลัยเอกชนมันชั้นต่ำ... ก็เลยทำให้คนที่มีความสามารถมุ่งแต่จะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐ พอเป็นอย่างนี้ ทรัพยากรบุคคลที่เหลือให้ ม.เอกชน ก็คือคนที่เอ็นท์ไม่ติด... ก็เลยยิ่งส่งเสริมทัศนคติของสังคมที่ว่ามหา'ลัยเอกชนมันชั้นต่ำ...
ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ก็เลยทำให้บทบาทของมหาวิทยาลัยเอกชนในการรองรับจำนวนผู้ที่เข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาล้มเหลว... และก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องที่เรียนไม่พออย่างที่กล่าวก่อนหน้านี้ได้สักที...
PS สิ่งที่น่าแปลกในเรื่องนี้ คือ ทำไมมุมมองต่อสถาบันการศึกษาของ รัฐบาล/เอกชน ในระดับ โรงเรียน/มหาวิทยาลัย ถึงตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง...
10 May 2005
Today's Log - 10/5/2005
Reached home: c.21:30
Travelled: คณะ, Novotel Lotus
Activities
- พันด้าย...
- ใช้แรงงาน (แบกหาม) - ขนฟูกขึ้นหอ (ทั้งบ้านมีผู้ชาย 8 คน ไม่อยู่ 1 ติดภารกิจ 3 งานยุ่ง 2 อู้ 1) (อันสุดท้าย: ล้อเล่นเฉย ๆ นะ...)
- ไปดูซ้อม...
- ประชุมฝ่ายศิลปวัฒนธรรม (เราไปเป็นเครื่องประดับ)
- งานเปิดตัวหนังสือ Love + Share
- ขอโทษอาร์ต/แป้งนะ... แทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย...
- เหนื่อยจัด... ใช้แรงงานมันลำบากอย่างนี้นี่เอง...
- ปูที่นอนเสร็จ... เฮ่อ~!
- "เหตุผล 90% aggressive 10%"
- จงเห็นใจผู้ใช้แรงงาน
- พี่อู๋เล่าประสบการณ์
9 May 2005
Today's Log - 9/5/2005
Reached home: (จำไม่ได้)
Travelled: คณะ
Activities
- ประชุมชั้นปี... ไปทัน 09:00 ด้วย... (ที่จริงช้าเกือบ 5 นาที แต่ค่าเท่ากัน~)
- ซ้อมละคร (อู้ซะนาน... บทตัวเองมีกะจึ๋งนึง...)
- ทำงานบ้านใต้หอใหม่... (ไม่ใช่งานบ้าน)
- เราว่า ปัญหาคือเวลาร้องเพลงแล้วเพื่อน ๆ จะต้องใส่จังหวะหายใจแทรกเข้าไป ทำให้จังหวะเพลงมันมั่ว... (โดยเฉพาะจามจุรีประดับใจ)
- อุตส่าห์สละทรัพย์ส่วนตัวทำให้นาฬิกาตรงนะเนี่ย...
- มา (เกือบ) ตรงเวลาเป็นครั้ง (เกือบ) แรก!
- "เพลงมหาวิทยาลัย ร้องเฉย ๆ มันไม่ยากหรอก แต่มันยากตรงการร้องให้เป็น unity" - quoted by พี่อรรจน์
- ควรนอนแต่หัวค่ำ...
- อยู่ในละคร
8 May 2005
Today's Log - 8/5/2005
Reached home: 21:00
Travelled: ม.เกษตร, etc.
Activities Comments
- ชักเป็นภาระจริง ๆ นะนี่... ขี้เกียจอย่างแรง...
- นั่ง 52 มา... ถึงยาคูลท์เนี่ยแหละ ฝนสาดเข้าหน้าต่างเลย...
- "ต้องเปลี่ยนจากพอฝนตก แดดก็ออก เป็น พอฝนตก พี่พอก็มา" - ป่าน
- N/A
- เครื่องเขียนนั้นไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป... แต่บางทีมันก็ซ่อนหาเฉย ๆ
- N/A
7 May 2005
Today's Log - 7/5/2005
Reached home: 22:00
Travelled: ร้านอาหาร
Activities
- ไร้สาระอีกละ...
- ไปทานข้าว (Glen เลี้ยงวันเกิด)
- กำลังคิดว่า... เลิกเขียนเป็น daily log อย่างนี้สักทีดีไหม... ดูไม่เห็นจะได้อะไรสักเท่าไรเลย... คนเขียนก็ต้องมานั่งเค้นสมองนึกว่ามีอะไรให้เขียนได้บ้าง (ที่จริงตอนแรกคิดว่าน่าจะดีที่จะหาอะไรที่เป็นจุดเด่นของแต่ละวัน... แต่ปรากฏว่ามันก็นึกไม่ออก แล้วก็ไม่ได้เขียนซะหลายวันอยู่ดี) สาระอะไรที่คนอ่านจะได้รับก็ไม่ค่อยมี... (แล้วสาเหตุหลักที่กะไว้ตอนแรกก็จะได้บังคับให้ต้องคอย post แต่นี่ก็ปรากฏว่าโหว่มา 6 วันแล้ว...)
- ทีแรกก็กะว่าจะไปค่าย ICT แหละ... แต่ปรากฏว่าตื่น (สาย) มาด้วยอารมณ์เซ็ง... แล้วไปตอนกลางวัน งานวิชาการก็ไม่ค่อยได้ช่วยอะไร... ก็เลยกะว่าจะสางงานอยู่บ้าน...
- แต่ก็ด้วยความที่ว่าอารมณ์เซ็ง... ก็... ปรากฏว่านั่งเล่น Prince of Persia 2 เกือบผ่านด่าน 11 (หมดเวลาก่อน...) แล้วก็นั่งไร้สาระอีกมากมาย...
- รู้สึกแย่นะเนี่ย... ทำไมต้องให้คอมพิวเตอร์เข้ามาแทรกแทรงชีวิตอย่างนี้ด้วยล่ะเนี่ย... บั่นทอนซะจริง...
- เอ... วันนี้เปิด 2 จอที่ 85 Hz ได้...
- ดูถึงลูกถึงคนเมื่อวันที่ 4... ชอบ + เห็นด้วยกับหลายอย่างที่น้องป๋อม (เศรษฐศาสตร์จุฬา) พูดเกี่ยวกับการกวดวิชา admission และอื่น ๆ
- ทานข้าว... อิ่มเกิน...
- "Title: Ragnarok Online
Publisher: Gravity Interactive LLC
Platform: PC
Rating: Teen (13+)
Descriptor: Fantasy Violence,Langauge" - ESRB (เพิ่งเห็นว่ามีแล้ว...)
- N/A
- เวลาผ่านไปเร็วเกินกว่าที่จะเผาเล่น ๆ อย่างนี้... เมื่อไรจะเรียนรู้สักที...
- N/A
6 May 2005
Today's Log - 6/5/2005
- ช่วง ICT Fun Camp
Reached home: c.21:00
Travelled: ตึกไผ่, หอใหม่, หอหกชั้น, หอใหม่, หอหกชั้น, หอใหม่, ร้านอาหาร
Activities
- ประชุมงานวันอานันท
- ไป ๆ มา ๆ นั่งเล่น Crossword เล่นไพ่กันอยู่เป็นชั่วโมง
- ไปแจม ๆ หางานทำแถวหอใหม่/หอหกชั้น...
- ประชุม 10:00 ตื่นซะ 09:00... หมดค่าแท็กซี่อีก ฿157.00 + ค่าทางด่วน ฿50.00...
- แต่คนขับแท็กซี่ดีมาก ๆ เลย... สุภาพ ขับดี ทอนสามบาทด้วย
- มาดูตอนจะกลับบ้านดีกว่า... เคยเล่าเรื่องตอนที่ทดลองนั่ง 505 ครั้งก่อน... วันนี้ก็คิดว่า ปิดเทอม ไม่ได้รีบกลับอะไร... ลองนั่งกลับดู ว่าถ้าตอนเย็นจะใช้เวลาสักเท่าไร... ยอมรับได้ไหม... ก็...
คราวก่อน นั่ง 2 ชั่วโมง ส่งถึงบ้าน (จากตรงข้าม อปร)...
วันนี้... 1 ชั่วโมงครึ่งผ่านไป...
มาถึงสถานีรถไฟฟ้าราชดำริ - -'
โอ้ พระเจ้า! ทำไมมันช่างเป็นการคมนาคมที่ทรงประสิทธิภาพเช่นนี้...
ที่สุดแล้วก็ไม่พ้นรถไฟฟ้าอยู่ดี
- ลงบันได... 166 กำลังจะออก... อย่าเพิ่ง~! โบก ๆ - รถเมล์อีกคันแล่นผ่านหน้าอีก... - แต่ที่สุดแล้วก็ขึ้นทันพอดี (ได้ที่ยืนที่สุดท้ายพอดีด้วย (บันได))
- (ไตเติ้ลโจทย์ที่พี่เก่งแต่ง... แต่จำไม่ได้)
- (ตอนเล่นไพ่)
- เขาอุตส่าห์สร้างรถไฟฟ้าให้... ใช้มันนั่นแหละ ดีแล้ว...
- ขนาดองค์ประกอบใบหน้า... เหอะ ๆ
5 May 2005
Today's Log - 5/5/2005
- วันฉัตรมงคล
Left home: c.06:15
Reached home: c.22:00
Travelled: ม.เกษตร
Activities
- รับน้องเกษตร
- ไปช่วยค่าย ICT (แต่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย... ทำตัวไร้ค่ามาก)
- เหนื่อย...~ กลับบ้านมาหลับ 11 ชั่วโมง
- ไอ้ time capsule แอบเป็นหมันนะนั่น... คนเยอะเกิน ไม่มีที่...
- ลงรถสองบาทมา... เห็นรถสีเขียว ๆ... เอ๊ะ รถคณะเรานี่นา...
4 May 2005
Today's Log - 4/5/2005
Reached home: c.22:00
Travelled: ม.เกษตร
Activities
- ICT Fun Camp
- ขอโทษที่ไปสายนะ...
3 May 2005
Today's Log - 3/5/2005
Reached home: c.22:00
Travelled: ม.เกษตร
Activities
- ICT Fun Camp
- ไปสายขั้นรุนแรง... ขอโทษนะ... -/\-
Quote of the day
- "แพทย์ทำผิดพลาด ใครจะรับผิดชอบ" - sms รายการถึงลูกถึงคน
2 May 2005
Today's Log - 2/5/2005
Reached home: (จำไม่ได้)
Travelled: คณะ
Activities
- โรงงานนรก... นั่งทำของ Freshy Camp (นัดเช้า... ไปซะเที่ยง)
- ประชุมงานลับสุดยอด (ทำยังกะจะมีน้องหน้าไหนหลงเข้ามาอ่านได้)
- เลื่อนเวลาประชุมนี่นา... ก็จำได้คราวก่อนนัดไว้ 16:00...
- เลยยังไม่ได้เย็บแข่งกะนุเลย...
Joke of the day
- (จำไม่ได้แล้วแหละ แต่ยังไงก็ต้องมาจากพี่อู๋...)
1 May 2005
Today's Log - 1/5/2005
- วันแรงงานแห่งชาติ
Left home: c.10:45
Reached home: 16:10
Travelled: บ้านลุงตุ๊ (กทม.), บ้านป้าลักษณ์
Activities
- งานขึ้นบ้านใหม่บ้านลุงตุ๊ (ข้างบ้านป้าลักษณ์)
- เดี๋ยวนี้ไอ้นี่ยังชักขี้เกียจเขียนเลย... อยากจะหนีไปอีกมิตินึงสักเดือนก็ยังดี...
30 April 2005
Today's Log - 30/4/2005
Activities
- นั่งเล่นเกม...
- ช่างไร้สาระเสียจริง ๆ...
29 April 2005
Today's Log - 29/4/2005
- 16:00 กำหนดแสดงความจำนงขอลงทะเบียนเรียนผ่านทางอินเทอร์เน็ต ที่ http://www.reg.chula.ac.th
Activities
- จำไม่ได้แล้ว (ดองไว้ซะนาน...)
- ตื่นสายขึ้นทุกวัน ๆ... แย่จริง...
- อาการขี้เกียจกำเริบ...
การเข้ามหา'ลัย...
ยังไงก็คงหาข้อยุติที่จะนำการศึกษาของเราไปสู่ความเจริญไม่ได้ (ในเร็ว ๆ นี้) สินะ...
เฮ้อ...
แต่ที่ พญ.กมลพรรณแกล้งว่านี่ถูกนะ... ถ้าต้องการให้โอกาสอย่างเท่าเทียมกัน ทำไมไม่จับฉลากให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยล่ะ จะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการคัดเลือกบ้าบอนี่
ที่จริงก็คงรู้กันอยู่... ก็ประเด็นคือที่เรียนมันไม่พอกับความต้องการ!!!
แล้วสาเหตุ (รองลงมา) ที่ต้องคัดเลือกคืออะไร? ก็มหาวิทยาลัยต้องการนักเรียนที่มีคุณภาพสูงที่สุด ที่น่าจะให้ผลประโยชน์ต่อตัวนักเรียนเอง มหาวิทยาลัย และประเทศชาติสูงที่สุด หลังจากที่จบออกมาแล้ว...
จริง ๆ แล้วตรงนี้ก็ไม่มีอะไรบอกเลย ว่าการคัดเลือกโดยการสอบเอ็นทรานซ์เป็นวิธีที่ให้ผลดีตรงไหน...
แต่การใช้ระบบ admission ที่จะสนองจุดประสงค์ตรงนี้ ก็ไม่ใช่การใช้คะแนนเก็บจากเวลาเรียน ฯลฯ เฉย ๆ... ถ้าอย่างนั้นมันจะต่างจากเดิมตรงไหน นอกจากจะทำให้วุ่นขึ้น แล้วยังเสียความยุติธรรมและความโปร่งใสไปอีก (ก็นักเรียนไม่ได้สอบในห้องเรียนเพื่อเก็บคะแนนอยู่แล้วรึ?) ไหนล่ะ การดูผลงานจาก portfolio ไหนล่ะ การสัมภาษณ์เพื่อวัดไหวพริบ ความพร้อมที่จะเข้าเรียน...
ก็มันมีไม่ได้ เพราะโครงสร้างสังคมเรามันยังไม่พร้อมที่จะทำ...
แล้วเหตุผลหลัก ที่บอกว่าที่นั่งเรียนไม่พอ ยิ่งทำให้ต้องการกระบวนการที่โปร่งใส มีหลักเกณฑ์ที่เป็นรูปธรรม ตายตัว...
ซึ่งนั่นก็คือการสอบเอ็นทรานซ์~!
การเปลี่ยนแปลงเพื่อใช้คะแนนในชั้นเรียน ฯลฯ ตอนนี้ก็เพียงแค่จะเพิ่มความวุ่นวายเข้าไปอีก เพราะไหนจะขัดแย้งกับการต้องการจัด element ในการเรียนที่ customized สำหรับนักเรียนแต่ละคน แต่ละท้องถิ่น ไหนจะมีปัญหากับความเหลื่อมล้ำในการให้คะแนนพวกนี้อีก...
เอาไว้ให้โรงเรียนให้การศึกษาที่มีคุณภาพทั่วถึง เอาไว้ให้มหาวิทยาลัยสามารถรองรับนักเรียนที่ต้องการเข้าเรียนได้เพียงพอ เอาให้สังคมมองเปลี่ยนมุมมองที่ว่าการได้เรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐเป็นความสำเร็จสูงสุดของชีวิตนักเรียนเสียก่อน...
ถึงจะแก้ระบบได้อย่างประสบความสำเร็จ!
สรุปอีกที:
- การสอบเอ็นทรานซ์น่ะ ใคร ๆ ก็รู้ว่ามันบั่นทอนชีวิตนักเรียน... แต่การเปลี่ยนมาใช้คะแนนเรียนเนี่ย มันไม่เห็นจะช่วยตรงไหน
- ปัญหาอันดับแรกคือที่นั่งเรียนมันไม่พอกับความต้องการ
- และอันดับสองคือทัศนคติของสังคมต่อการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย
- ปัญหาหลักสองข้อนี้ ทำให้ต้องการระบบที่โปร่งใส เป็นกลาง เป็นรูปธรรม ซึ่งก็คือการสอบเอ็นทรานซ์
ไม่มีที่ไหนในโลกที่เจริญแล้วที่เขาคิดจะเปลี่ยนระบบไปมาตามใจชอบโดยไม่บอกล่วงหน้าก่อนที่เด็กจะขึ้น ม.ปลาย หรอก!!!
28 April 2005
Today's Log - 28/4/2005
Reached home: c.17:30
Travelled: ภปร, หอใหม่, ตึกไฟ่, หอใหม่, รพ.ราชวิถี
Activities
- ไปหาหมอฟัน... ไม่ได้อยากนะเนี่ย... (แล้วก็... อะไรไม่รู้ สับสนไปหมด (สงสัยเพราะง่วง))
- เอาค่าหนังสือสึนามิไปจ่ายหลังจากดองไว้นาน
- มิ้นชลธรเปิดโรงงานนรกใต้หอใหม่...
- กินข้าวตึกไผ่... ก็เห็นรับน้องโครงการเค้าสันท์กัน (แต่เรากิน)
- เมษาปีนี้ฝนตกเยอะจัง...
- ละครพุดกรองนี่ แต่ละอย่างบรรเจิดมาก... (ขอให้ทำได้จริงหมดเถอะนะ... -/\-)
- ณัชโทรมาปลุก
27 April 2005
Today's Log - 27/4/2005
Activities
- ไม่ค่อยมี...
- Ear tests นรก... ตาย...
คนไข้ VS หมอ... ญาติ VS โรงพยาบาล
ก็ไม่มีอะไรใหม่หรอก... เรื่องพวกนี้... ก็เป็นทิศทางของความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์-ผู้ป่วย ที่ยังไงก็คงหนีไม่พ้นการดิ่งเหวตามแบบสหรัฐฯ ไป... ในอนาคตไม่นานหมอทุกคนก็คงต้องทำประกันการถูกฟ้อง ก่อนตรวจคนไข้ก็ต้องเซ็นยินยอม คดีความพวกนี้เองก็คงจะเพิ่มจนมีทนายอีกกลุ่มที่ specialize ด้านนี้เป็นพิเศษ...
ฟังดูน่าเศร้าเนอะ... น่าเสียดายวัฒนธรรมความเป็นอยู่ ความสัมพันธ์อันดีที่เคยมีมา... แต่ในโลกทุนนิยมแบบนี้ ใครคิดว่าตัวเก่งนักก็ลองมาห้ามให้ได้แล้วกัน...
เอาเถอะ... ที่ผ่านมาไม่ใช่ประเด็นที่อยากพูดถึง...
ที่อยากจะพูดถึงคือ... ในศึกใหญ่เวทีนี้ ที่นับวันจะมีภาพออกไปให้ประชาชนเห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ... ไหนล่ะ กรรมการ?
อย่ามัวนึกถึงกระบวนการยุติธรรมที่กว่าจะให้คำตัดสินเกี่ยวกับอะไรได้สักเรื่องต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ จนคนที่ติดตามข่าวอยู่ก็จำไม่ได้... เวทีนี้ ศาลไม่ได้ตัดสินอะไรในสายตาสังคมอีกแล้ว
กรรมการของเวทีนี้ คือ สื่อมวลชน ต่างหาก
ก็เวลาภาพที่ประชาชนทั่วทั้งประเทศเห็นจากความขัดแย้งข้อนี้มันมาทางไหน ก็ผ่านสื่อมวลชน ข้อสรุป ใครถูกใครผิด อะไรก็ตาม ถูกวาดให้โดยสื่อมวลชนทั้งสิ้น
แล้วสื่อมวลชนก็เป็นกรรมการที่เล่นตามกติกาและดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมเสียเหลือเกิน...
ไม่ได้เจตนาเข้าข้างวิชาชีพที่ตนเองศึกษาอยู่นะ... (ถึงแม้อาจจะต้องมี bias ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ตาม) แต่ดูข่าว "ศาลอาญายกฟ้องแม่น้องเซนต์ที่ตกเป็นจำเลยในคดีหมิ่นประมาท รพ.พญาไท 1" ที่ออกมาวันนี้...
ข่าวรายงานว่า ศาลสั่งยกฟ้องในคดีที่ รพ.พญาไท 1 ฟ้องหมิ่นประมาทนางดลพร ที่ออกทีวีพาดพิง รพ.เมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้ว และตอนท้าย ก็มีบทสัมภาษณ์นางดลพรที่สะอื้นด้วยความตื้นตันขณะให้สัมภาษณ์ว่า "ต่อสู้มา 10 ปี ครั้งนี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความยุติธรรมถึงศาล และสิทธิที่ผู้บริโภคควรได้รับ"...
งงไหมครับ... นางดลพรได้รับความยุติธรรมตามสิทธิที่ผู้บริโภคควรได้รับ... แล้วทำไมถึงตกเป็นจำเลยคดีหมิ่นประมาท?
ที่มาของเรื่องนี้ก็คือ... เหตุเกิดตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว ที่นางดลพรประสบปัญหากับโรงพยาบาล (จะไม่ขอกล่าวถึงรายละเอียด) ซึ่งหลังการต่อสู้กัน 3 ศาลแล้ว ศาลฎีกาตัดสินยกฟ้อง โรงพยาบาลไม่ผิด สาเหตุความพิการของบุตรชายไม่ได้เกิดจากความประมาทของแพทย์และโรงพยาบาล...
ถึงตอนนี้... กว่าศาลจะตัดสิน ภาพที่สื่อประโคมออกมาทำให้โรงพยาบาลเสียชื่อไปขนาดไหนแล้ว... โรงพยาบาลตัดสินใจฟ้องกลับ (ตัดสินใจผิด เพราะลืมนึกถึงสื่อมวลชนนี่แหละ)
แต่พอศาลชั้นต้นตัดสินยกฟ้อง สิ่งที่ปรากฏให้ประชาชนได้เห็นกลับกลายเป็นการที่นางดลยาได้รับความยุติธรรมเป็นครั้งแรก หลังจากต่อสู้คดีมานับสิบปี... (ก็แปลว่าคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีแรกที่ยุติไปแล้วนั้นไม่ยุติธรรมน่ะสิ?)
อย่างที่บอกตอนแรกนะครับ... ภาพของคดีที่ประชาชนเห็น คือภาพที่สื่อมวลชนเสนอให้... หากสื่อมวลชนต้องการให้ประชาชนเข้าใจประเด็นอย่างถูกต้อง ก็คงต้องให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างครบถ้วน...
แต่เราก็ต้องเข้าใจว่าสื่อมวลชนเขาอยู่ได้ด้วยการขายข่าว... ประชาชนมากมายเองที่รับบริการสุขภาพจากแพทย์ ก็รู้สึกว่าแพทย์กุมชะตาชีวิตของเขาและครอบครัวไว้ หากเกิดอะไรผิดพลาดใครจะรับผิดชอบ? (ถึงแม้ทุกคนเองก็รู้ดีว่าหมอไม่ใช่เทวดาหรือพระเจ้านี่นา?) คงไม่ต้องบอก ว่าข่าวที่ขายออก จะเข้าข้างฝ่ายไหน...
อีกตัวอย่างนึงของความเปลี่ยนแปลงของสังคมและระบบบริการสุขภาพ... ข่าวเมื่อไม่กี่วันมานี้... ภรรยาที่เพิ่งคลอดพบผ้าก๊อซในช่องคลอด... ปกติเราคงคิดว่าเมื่อเจออย่างนี้คงต้องรีบไปหาหมอก่อน ถึงแม้จะไม่ไปหาหมอที่เดิมก็ตาม แต่รายนี้...
วิ่งเข้าแจ้งกับสื่อมวลชนทันที~
เอาเถอะครับ... มุมมองที่เขียนมาก็ไม่ใช่มุมมองที่เป็นกลาง... แต่บางที ท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ก็อาจจะพอวาดแนวความคิดของตัวเองได้ชัดขึ้นอีกนิด...
เฮ่อ...
26 April 2005
Today's Log - 26/4/2005
Reached home: 20:30
Travelled: วัดชลประทานรังสฤษฎิ์ (สะกดยังไง?)
Activities
- เดิมกะว่าตอนเช้าจะไปหาหมอฟัน แล้วประชุมละครกะพุดกรองตอนบ่ายโมง แต่เมื่อคืนปวดท้อง... ตอนเช้าก็เลยไม่แน่ใจว่าไปไหวหรือเปล่า (ประเด็น: ง่วง) ก็เลยอยู่บ้าน... (สงสัยไป ๆ มา ๆ ได้ปวดฟันตอนเปิดเทอม...)
- ตอนเย็นไปงานศพอาม่าของณัฐ-เอก-ถั่ว
- เสียใจกะถั่วด้วยนะ... แต่มันก็แปลกดีนิด ๆ คือเรารู้จากไดแป้ง ซึ่งแป้งมาอัพตอนตี 3 ถ้าไปคณะแต่เช้าเราก็คงไม่รู้เรื่อง...
- วันนี้ได้บ่นอะไรในนี้หลายเรื่องเหมือนกัน... แต่ทำไมเวลาจะเขียนอะไรสักเรื่องมันใช้เวลานานเหลือเกิน...
- Reader's Digest มา... นั่งอ่านไปบางเรื่อง + ดูทีวีอีกนิดหน่อย... หมดละ ทั้งวัน...
- คงต้องลดทีวีกะคอม เพิ่มหนังสือ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า... (จะทำได้มั้ยเนี่ย)
- นั่งรถเมล์เลยป้าย... แต่ไปถึงศาลาก็ปรากฏว่าคนอื่นยังไม่มากัน
- (เป็นกลอนที่พระท่านบอกให้ฟังตอนแรกสุดของการเทศน์เลย... จำไม่ได้ แต่ใจความประมาณว่า เวลาผ่านไป คนเราต้องตาย ก็เป็นการเตือนคนที่ยังอยู่ว่าความตายหลีกเลี่ยงไม่ได้)
- คุยกะพุดกรอง ว่าจะไม่ไปประชุม (ที่มันเด่นไม่ใช่บทสนทนาหรอก แต่คือต้องโทรหาป้าแพร์ถึงได้คุย หลังจากโทรหาพุดกรองกะไบรท์ไม่เป็นผล (สัญญาณ PCT ก็...))
- การมางานศพไม่ใช่แค่มารยาททางสังคม มันเป็นการแสดงถึงความกตัญญู รู้คุณคนและความดี เป็นการทำความดีโดยและเพื่ออุทิศให้ผู้อื่น... (และเรื่องอื่น ๆ ที่พระท่านเทศน์)
- อยู่ใน Snow Dogs
หนังสือพิมพ์... ไม่ไหวแล้ว...
ตั้งแต่ใหญ่ไปเล็กนะ
- "บีเอ็มอัดท้าย6ล้อ ตลกดัง! เอกเชิญยิ้มเละคาที่"
- "ฟันปลอมติดคอ หนุ่มซวย ตายน่าอนาถ"
- "รฟ.แหกโค้งตกราง"
- "ชูวิทย์ชนทรท. จวกโคตรเน่า"
- "จับมือมีดโหด ฆ่าสาววิศวฯ"
- "แฟนก็เลิก งานก็พลาด สาวเครียด! ดิ่ง-บีทีเอส"
- "ผู้บริหารบ.ดัง เป็นลมหัวทิ่ม ตกสะพานดับ"
- "โจรใต้บึมอีก พร้อมกัน2จุด ยิงพี่ชายปลัด"
- "ตกสะพานดับ"
- "ดวงถึงฆาต"
- "ฟันปลอมติดคอ"
- "ยับเยิน"
- "แค้นโหด"
เฮ่อ...
ดูสิ่งที่น่าจรรโลงใจที่สุดบนหน้าหนึ่งเห็นจะเป็นไม่ จวกโคตรเน่า ก็ สติกเกอร์หัวนม เนี่ยแหละ
น่าอนาถจริง ๆ...
นี่ถ้าไม่ได้ไม่อ่านหนังสือพิมพ์อยู่แล้วจะขอให้เลิกรับแล้วนะ...
(แต่ประเด็นคือ ถึงเปลี่ยนไปรับอย่างอื่นก็คงไม่ได้อ่านอยู่ดี)
แต่ที่จริงก็ จะหวังอะไรกับหนังสือพิมพ์
สื่อมวลชนเป็นสถาบันที่มีอิทธิพลต่อสังคมมากอันดับต้น ๆ... น่าเสียดายที่บางครั้งมันถูกใช้ไปอย่างสิ้นเปลืองและน่าเสียดายเช่นนี้...
25 April 2005
Today's Log - 25/4/2005
Reached home: c.17:30
Travelled: รพ.ราชวิถี, ตึกสรีระ, ตึกไผ่, ห้องสมุด, ตึกสรีระ, รพ.ราชวิถี
Activities
- ประชุมชั้นปี... ก็ หลายเรื่อง คนที่ไม่มาอย่าลืมตามงานนะ...
- วันนี้ขี้เกียจเขียนแล้ว...
- แต่เขียนนิดนึงก็ได้... น้องสุส่ง นี่ ให้ดู... แบบว่า โดน มาก
24 April 2005
Today's Log - 24/4/2005
Activities
- ใช้เวลาส่วนใหญ่อ่าน For Better or for Worse (+ เล่น Scavenger Hunt... ยังหาธงกับกระต่ายไม่เจอ 2 อย่าง...)
- ถ้าใครยังไม่ได้ตามลิงก์ไปดู For Better or for Worse เป็นการ์ตูนหนังสือพิมพ์รายวันที่เขียนโดย Lynn Johnston ชาวแคนาดา เป็นการ์ตูนที่เราชอบมาก ๆ เลย มันเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคนเรา แล้วก็แฝงข้อคิดดี ๆ หลายอย่าง... ลองดูนะ ๆ
- "ทำไมมันไม่เป็น PCT แล้วล่ะ แบบ กด 0 เข้าบ้าน"
"เอ๋ ไหน พอโทรมาเบอร์อะไร"
"02######1"
"เบอร์นี้มันเป็นเบอร์บ้านอยู่แล้ว มันต้อง ###4 ถึงจะเรียก PCT"
"อ้าวเหรอ"
(แต่เราจำได้จริง ๆ นะ ว่าเคยโทรเบอร์ ###1 แล้วมันเป็นเทปแบบ PCT น่ะ)
- การอ่านการ์ตูนใช้เวลาได้เยอะมาก
- ดูใน For Better or for Worse
23 April 2005
Today's Log - 23/4/2005
Activities
- โอย... อยู่หน้าคอมเกือบทั้งวัน... นั่งเรียบเรียงแนะแนววิชาเลือก...
- แนะแนววิชาเลือก... ใครยังไม่ส่งส่งได้แล้ว! ยังมีแค่ไม่กี่วิชาเอง... folklore, ethics, lang cult, ger lit, human comm, intro to law, psy life work, history of sci, man/nature, man & en, strategy of life, prep diag, family rela, eu int, our en, ideal grad, thai ideal, intro lang, golf, swimming, tennis, aerobic, life/family ยังไม่มีคนส่งเลย... ไม่นับอีกตั้งหลายวิชาที่ไม่รู้ว่ามีคนเรียนหรือเปล่า...
- ตื่น (สะท้อนให้เห็นถึงความน่าตื่นเต้นของวันนี้)
- "จะเป็นนรกหรือสวรรค์ขึ้นอยู่กับอาจารย์ผู้สอน" - Elm, comment on SP ACT-BODY CONDIT
- "Paul_012 says:
ชื่อสั้นลง
PeTe : I'm twisted says:
ใช่"
(จบ)
- เสียสุขภาพ...
- "สรุป ถ้าน้องอยากทดสอบพลังภายในตัวเอง ก็ลองเรียนดู" - comment วิชา behavioral science ของเอธยา
รถโดยสารประจำทาง
ที่จริงก็ไม่มีอะไรจะเขียนเท่าไรหรอก ตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนที่นั่งรถเมล์อะไรมากมาย... ก่อนขึ้น ม.4 เคยนั่งรถเมล์ไม่ถึง 25 ครั้งเลยมั้ง
แต่คำนี้เป็น false friend¹ ที่แปลกทีเดียว... ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 เองยังให้คำจำกัดความไว้: "เมล์ ๑ น. เรียกยานพาหนะประจำทางที่ออกตามกำหนดเวลา เช่น รถเมล์ เรือเมล์. (อ. mail)." แล้วพาหนะประจำทางนี่มันเกี่ยวอะไรกับไปรษณีย์?
หรืออาจเป็นไปได้ว่าสมัยก่อนเขาขนส่งไปรษณีย์ไปกับรถประจำทาง?
ที่จริงคงมีใครสักคนหาคำตอบไว้ให้แล้วแหละ... แต่ด้วยความไม่ใฝ่รู้เพียงพอเราก็ยังขี้เกียจเกินกว่าที่จะไปตามหาคำตอบเท่านั้นเอง... (เมื่อไร Google จะ search ภาษาไทยได้สักที²...)
แต่ชักจะออกนอกเรื่องแล้ว... เล่าต่อดีกว่า... เพิ่งเคยเข้าไปดูเว็บ ขสมก. มันก็มีข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเดินรถสายต่าง ๆ ที่เกือบครบถ้วน (รถร่วมบางสายยังขาดไป) แต่น่าเสียดายที่ไม่มีแผนที่การเดินรถให้ดู (ที่จริงของพรรค์นี้มันก็น่าจะหาได้ไม่ยากน่ะแหละ... แต่ด้วยความขี้เกียจ + ไม่มี incentive เพราะไม่ค่อยได้ต้องไปไหน ก็เลย...)
ช่างเถอะ... มาพูดถึงรถสายที่ขึ้นประจำดีกว่า...
- 166 เมืองทองธานี - อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ทางด่วน, ธรรมดา/ปรับอากาศ)
ต้องขึ้นเกือบทุกวัน... ทางเข้าบ้านอยู่เลยอนุสาวรีย์ชัยฯ ไป 2 ป้ายรถเมล์ (ระยะทางตรงประมาณ 15 กม./ เดินทาง 17 กม.) ค่าโดยสาร 14 บาท... เนื่องจากระยะทางระหว่างป้ายบางทีก็เลยเอาแน่เอานอนไม่ค่อยจะได้... วันไหนอารมณ์ขี้เกียจรอ + อยากนั่ง + ไม่เสียดายตัง ก็มักจะหนีไปขึ้นรถตู้ปรับอากาศร่วมบริการสาย 64 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ - ปากเกร็ด แทน
เวลากลับบ้านจากคณะก็... มักจะนั่งรถไฟฟ้า BTS มา ฿14.00 (ถ้ามีบัตรนักเรียน 15 เที่ยว) หรือ ฿20.00 (จากราชดำริ)/ ฿25.00 (จากศาลาแดง) มาลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วเข้าบ้านอาจจะให้แม่ออกมารับปากซอยหรือนั่งรถสองแถวเมืองทองเข้าไปอีก ฿5.00... สุทธิค่าเดินทางเส้นทางนี้ก็... 28 บาท จนถึง 50 บาท เวลาที่ใช้ก็อยู่ระหว่าง 1:00 - 1:30 ชั่วโมง (ชั่วโมงเร่งด่วน) - 52 ปากเกร็ด - สถานีรถไฟบางซื่อ (รถร่วมบริการ, ธรรมดา)
เป็นรถที่ผ่านปากทางเมืองทองฯ อีกสายเดียว ที่มีเส้นทางที่มีโอกาสใช้บริการ (ออกวิภาวดี ผ่านสวนจตุจักร) (นอกนั้นมี 150 ไป ม.ราม, 356 ไปสะพานใหม่) ถ้ามาจากคณะก็ขึ้นรถไฟฟ้า BTS (฿14.00/ ฿30.00) หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT (฿11.00/ ฿15.00) มาลงหมอชิต/สวนจตุจักร แล้วนั่ง 52 ต่อกลับบ้าน (ระยะทางตรงประมาณ 11 กม./ เดินทาง 15 กม.) ฿5.00 รวมก็ตั้งแต่ 16 บาท ถึง 40 บาท เวลาประมาณ 1:30 ชั่วโมงโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน/นอกชั่วโมงเร่งด่วน
นอกจากนั้นก็เป็นรถสายเดียวที่ขึ้นจาก ม.เกษตร กลับบ้านได้
มาถึงเรื่องที่บอกว่าอยากจะบ่นตั้งแต่วันที่ 19... ก็... ปกติเราก็คิดว่า 52 นี่เป็นรถร่วมฯ ที่มารยาทในการขับค่อนข้างโอเค... (ไม่ทำให้รู้สึกเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน) แต่วันนั้น ไม่ทราบคุณสันติ พขร. จะรีบร้อนไปไหนเป็นพิเศษ (น่าสงสัยว่ารถเมล์ไปถึงเร็วแล้วเขาจะไปไหนต่อได้เร็วด้วยหรืออย่างไรกัน) ขับซะแบบ เฮ่อ... เมื่อวันที่ 18 ยังพอยืนหลับได้ แต่วันนั้นได้นั่งยังหลับไม่ลง... ประมาณว่าผู้โดยสารคนสุดท้ายยกเท้าขึ้นมาได้ 5 cm ก็ออกรถละ... แล้ว พกส. ก็อุตส่าห์ช่วยบอกนะ... "ก้าวเร็วค่ะ ๆ" น่าสงสัยทำไมไม่บอกให้ออกรถช้าลงสักนิดก็ยังได้... เวลาขับที่ปกติต้องชิดซ้ายบางทีพี่แกขับเลนที่ 3... แล้วประตูรถนี่ก็... ปิดจริงอยู่หรอก (เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้สั่งให้ปิดทุกคัน) แต่ปิดตอนที่ความเร็วรถเร่งขึ้นมาจนคงที่แล้ว แล้วเวลาเปิดประตูก็เปิดก่อนจะเริ่มชะลอรถ... เอ... ได้ข่าวว่าที่คนตกรถเมล์ตายนี่ส่วนใหญ่มันเกิดเวลาขึ้น/ลง... แล้วตอนที่ความเร็วรถคงที่แล้วมันจะมีแรงภายนอกอะไรมาทำให้คนตกรถได้ง่าย ๆ อีก?
แต่ก็เอาเถอะ... ยังไงก็ดีกว่ารถเขียวแบบที่ปาพจน์เคยเล่า... ว่าฝนตก... คนขับรถก็พยายามเบียดแทรกเข้าไปเลนข้าง ๆ... กระเป๋ารถก็บอก จะเบียดทำไม เบรกยิ่งไม่ดีอยู่ (ป้ายต่อมาคนลงทั้งคัน) - กลับเรื่องเดิมต่อดีกว่า... รถอีกสายที่ใช้กลับบ้านได้ คือ
505 ปากเกร็ด - สวนลุมพินี (ปรับอากาศ)
เคยทดลองนั่งครั้งเดียวเมื่อวานซืน เป็นการนั่งรถที่คุ้มมาก... ค่าโดยสาร 16 บาท ได้นั่งจากสวนลุมฯ มาส่งถึงหน้าบ้าน ระยะทางตรงประมาณ 20 กม. (ระยะจากบ้านมาคณะ) แต่ได้นั่งจุใจถึง 32 กม. ในเวลา 2 ชั่วโมง (นอกชั่วโมงเร่งด่วน) โอย...
(แต่ที่จริง ถ้ายอมทนนั่ง 505 นี่คงเก็บตังได้เยอะเลยนะเนี่ย...)
Admission... เฮ่อ...
เป็นเรื่องเดิม ๆ ที่น่าแปลกใจว่าทำไมคนเราถึงจะไม่สามารถประจักษ์เห็นถึงความจริงที่ว่ามันไม่ยุติธรรมสักที...
ก็ไม่มีอะไรใหม่จะพูดหรอก... อะไร ๆ ก็ยังเหมือนเดิม... การสอบ entrance ทำลายคุณภาพชีวิตเด็ก แต่ admission ก็ยังหาความยุติธรรมไม่ได้...
ก็ในเมื่อเด็กยังต้องแย่งกันเรียนแล้วมันจะหาข้อยุติกับปัญหานี้ได้อย่างไรกัน?
ถ้าโรงเรียนทั่วประเทศสามารถให้การศึกษาที่ดีได้ทั่วถึง ถ้าทั้งประเทศมีมหาวิทยาลัยที่สามารถรองรับนักเรียนได้เพียงพอกับความต้องการ (หรือถ้านักเรียนที่ต้องเข้ามหาวิทยาลัยไม่เกินจำนวนที่รับได้) นั่นไม่ใช่ทางที่จะแก้ปัญหาได้ดีกว่าหรือ?
คนทั้งประเทศไทยยังรอการปฏิรูปการศึกษาอยู่...
22 April 2005
Today's Log - 22/4/2005
- Earth Day
- ค่ายสึนามิ (ออกเดินทาง)
- นัดทำคัตเอาท์รับน้องเกษตร
Reached home: c.15:30
Travelled: หอใหม่, ตึกไผ่, หอใหม่, ตึกจักรพงษ์, ภปร
Activities
- ประชุมบ้าน... นัด 08:30 เรามาก่อนเจ็ดโมงครึ่ง หลับรอ... เริ่มประชุมเก้าโมงเศษ ๆ ได้มั้ง ส่วนมิ้นมาเกือบสิบโมงครึ่ง
- ซ้อมหนีไฟ... ปรากฏว่าเลื่อน... ถ้าไม่ได้มีประชุมแล้วออกจากบ้านมาเพื่ออย่างเดียวจะเคืองมากนะนี่...
- ก็เลยไปติดต่อแผนกทันตกรรมที่ภปร ก่อนกลับบ้าน
- ที่ประชุมบ้านกันคิดไปคิดมารู้สึกเหมือนไปเป็นเครื่องประดับยังไงอยู่...
- ไปแผนกทันตกรรม (ลากเอล์มไปด้วย)... เจอไฟปิดมืด ปรากฏว่าพักเที่ยง เลยนั่งรอ สักพักนึงเจอคนสองคนหน้าตาคุ้น ๆ เหมือนจะมาแผนกจิตเวช (ชั้นเดียวกัน) แต่ปรากฏว่าเป็นอ๊อกกับพิเชฐ จะมาติดต่อทันตกรรมเหมือนกัน
- ตอนแรกกะจะทดลองนั่ง 505 อีกวันแล้ว แต่เอล์มอยากนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน (ช่วงนี้ สิบสถานีแรก ฿10.00 ที่เหลือ ฿15.00 ตลอดสาย) ก็เลยขึ้น 52 จากสวนจตุจักรกลับ... ใช้เวลาประมาณ 1:30 ชั่วโมง
- ฝนตกในรถไฟฟ้าใต้ดินด้วย... ไม่รู้น้ำแอร์รั่วหรืออะไร แล้วมันตกลงมาไม่เป็นแนวดิ่งด้วยนะ เพราะขณะนั้นขบวนรถมีความเร่ง...
- โอ้ออนไลน์?!... (เหตุการณ์หายากอย่างนี้ทำไมไม่โทรมาบอก~)
- วันนี้... ลองคิดดูสักนิดว่า เราทำสิ่งที่ทำได้เพื่อโลกของเราบ้างหรือยัง?
- หลับ (ฟุบกับโต๊ะ) อยู่ดี ๆ... อยู่ ๆ มีมือใครก็ไม่รู้มาวางทาบลงบนไหล่... เงยหน้าขึ้นมาเพ่งดูประมาณ 3 วินาทีถึงเห็นคิม (รบกวนการนอนเสียจริง...)
- "เมื่อกี้เราอยู่ในห้องน้ำได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์" - พัชร (ไม่มีอะไรหรอก แต่น่าสังเกตว่าเวลาคุยโทรศัพท์เราจะพูดเสียงดังขึ้นกว่าปกติ... หรือเปล่า?)
- ประชุมบ้าน... นั่งดูพวกมิ้นคุยกันเรื่องของที่ระลึกน้อง...
- Cheetah (ภาษาไทยสะกดยังไง?) มันไม่คำราม แต่ร้องคล้าย ๆ เมี้ยว ๆ ของแมว
- (นั่งอ่านรันม่าที่จุฬาเช่ามา... มันต๊อง + ฮา อย่างที่คิมว่าจริง ๆ แหละ)
21 April 2005
Today's Log - 21/4/2005
- ขอลงทะเบียนเรียน (ถึงวันที่ 29)
Reached home: 13:30
Travelled: อปร, ธนาคาร, อปร, ตึกไผ่
Activities
- ทำสัญญา รอบ 2
- ขายชุดแทบไม่ได้ช่วยเลย ออกมาน้องเลิกซื้อกันแล้ว...
- ตามที่เค้าเก็บของไปตึกไผ่ แต่ไปลงเอยด้วยการตากแอร์อยู่ห้องดนตรีสากล
- ทำสัญญาเร้ว... เร็ว ส่วนใหญ่เสร็จก่อน 9 โมงอีกแน่ะ (ไม่นับคนที่ต้องรออย่างอื่น)
- วันนี้รู้สึกเป็นเครื่องประดับที่ไร้ประโยชน์มาก... ไม่มีใครถามอะไรเลย แถมที่เย็บกระดาษหายอีกต่างหาก (เมื่อวานลืมเอากลับ)
- กอฟอนุรุธจะจำชื่อน้องได้ทุกคนก่อนเปิดเทอมนะครับ...
- แต่บัตรสมนาคุณของพีรวัชร์นี่สุดยอดจริง ๆ...
- ทดลองกลับบ้านโดยสาย 505... ถ้าไม่นับเวลาที่หาป้ายรถเมล์ไม่เจอก็ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงพอดี ตอนออกมาที่บ้านฝนตกหนัก มาถึงก็ถนนแห้งแล้ว (เจอรถอภิมหาติดอยู่ที่ปากเกร็ด... อีสะพานนี่เมื่อไรจะสร้างเสร็จ) นั่งมานานก็... ที่จริงพยายามหลับแล้วนะ แต่หลับแล้วรถมันเอาขอบหน้าต่างมากระแทกหัว... โอย... ปัญหาคือมันไม่ใช่ขอบหน้าต่างเฉย ๆ นี่สิ (ไม่งั้นก็พิงหลับไปแล้ว) แต่มันคือขอบหน้าต่างที่มีสกรูขันยึดเอ็นที่ไว้กั้นผ้าม่านอยู่ แล้วไอ้สกรูอันนี้มันดันอยู่ตรงกับขมับพอดี... เผลอนิดนึงรถกระตุกก็ โป๊ก! โอ๊ย...
- แต่ก็นับว่าไม่เลวนะ... ฿16.00 จากสวนลุม ไปส่งถึงหน้าบ้านพอดี (ปลายทาง - ต้นทาง) ถ้าเทียบกับวิธีปกติก็ค่ารถไฟฟ้า ฿25.00 (ถ้ามี student pass ก็ ฿14.00) ค่ารถเมล์อีก ฿16.00 หรือรถตู้อีก ฿20.00 แล้วค่ารถเข้าเมืองทองอีก ฿5.00 ถ้าแม่ไม่ออกมารับ ก็ ฿35.00 - ฿50.00 แล้วใช้เวลาระหว่าง 1:00 - 1:30 ชั่วโมง นับว่าถ้ายอมหาทางนั่งหลับไม่ให้หัวโขกไอ้สกรูอันนั้นตลอดทางกับเสียเวลาอีกนิดหน่อย (แต่ยังไม่ได้ทดลองนั่งตอนชั่วโมงเร่งด่วนแฮะ...) อาจจะถือได้ว่าคุ้มทีเดียว...
- เจอ 505... ได้นั่งด้วย (เป็นรถที่ว่างมาก... ตลอดทางไม่มีคนต้องยืนเลย)
- "ไปปากเกร็ด
(เข้าเมืองทอง)" - ป้ายหน้ารถ 505
- หวาย lecture อะไรต่อมิอะไรให้ฟังหลายเรื่องมาก... รู้สึกได้อะไรใส่สมองที่เล็กลงอีกนิด...
- การนั่งหลับบนรถเมล์บางทีก็ไม่ได้ทำได้ง่าย ๆ (บางทียืนหลับอาจจะง่ายกว่า)
- "การดองงานเป็นโล่ชั้นยอด" เพราะ: "มีงานเก่าอยู่ ยังไม่เสร็จ ก็ไม่มีงานใหม่มาให้ทำ แต่ถ้ารีบทำให้เสร็จ แล้วก็จะมีงานใหม่เข้ามาอีก กลายเป็นไม่เสร็จซักที ไม่เห็นจะต่างกับดองตรงไหน" (ตาม request)
- จุฬาสอนปูเป้เล่นจับหมู... มีแบบฝึกหัดด้วย แบบ หยิบไพ่ออกมาใบนึงถามว่าแต้มอะไร (แอบฮา...)
20 April 2005
Today's Log - 20/4/2005
- วันแรกของการแสดงความจำนงขอลงทะเบียนเรียนผ่านทางอินทอร์เน็ต ที่ http://www.reg.chula.ac.th
Left home: c.06:30
Reached home: c.14:30
Travelled: อปร, ตึกไผ่
Activities
- ตรวจเอกสารทำสัญญาฯ น้องรอบ 2
- ช่วยขายชุดนิดนึง
- ไปตากแอร์ห้อง สพจ. แป๊ปนึง (สอน (ตรงไหน) กอฟใช้ Photoshop นิดหน่อย)
- กลับบ้านตอนแรกกะจะนอน แต่ไป ๆ มา ๆ ดันมานั่งเล่น The Sims 2 (งานมีไม่ทำ)
- งานท่วม... เมื่อไรจะทำเนี่ย หืม?
- ตอนแรกไม่เห็นรถเมล์ จะเดินไปขึ้นรถตู้ละ... หันมา 166 เข้าพอดี... ได้นั่งด้วย เย ๆ
- "ก็มันอยู่ใต้ดินมันก็ต้องขึ้นสิถึงจะมาบนบกได้" - me
- ถ้ามีน้องถามเรื่องสัญญาก็จะใส่แหละ... แต่วันนี้ว่างงานกว่าคราวที่แล้วอีก...
- เวลาที่คิดจะไม่ขึ้นรถเมล์ บางทีก็ทำให้พลาดโอกาสที่จะได้นั่งไป...
- "ต้นอะไร คำถาม" "ต้นไม้" - ทรรศนะ
19 April 2005
Today's Log - 19/5/2005
Reached home: c.17:50
Travelled: คณะ (ตึกไผ่), ม.เกษตร
Activities
- ประชุมฝ่ายนิสิต... คิดว่าตอนแรกจุฬาบอกว่า 09:30 ตามที่พี่มิวนัดน่ะแหละ แต่จำไม่ได้เลยถามอีกทีว่า 09:00 หรือเปล่า จุฬาก็บอกใช่ ก็เลยบอกกอฟไปว่า 09:00 กอฟก็บอกไอซ์ ไอซ์เลยมานั่งรอแต่ 08:30...
- เหาะไป ม.เกษตร เรียน Flash ต่อ...
- ตื่นสาย... ที่จริงจะไป 9 โมง ควรจะต้องตื่น 7 โมง แต่นี่กว่าจะตื่น 8 โมง (แม่มาปลุก) ยังดีที่เจอรถตู้... ก็เลยมาทัน 9 โมงครึ่ง แต่ขึ้นรถไฟฟ้ามานี่ไม่ไหว... ฿25... อีกหน่อยหมดตัวแน่ จะซื้อ student pass ก็ใช้จะไม่ครบ 10 เที่ยวเอา...
- งาน ๆ ๆ ๆ ๆ ล้นหลาม... (ใช้ไม้ยมกผิด เด็ก ๆ อย่าเอาเป็นตัวอย่างนะครับ) แต่ทำไมมันขี้เกียจอย่างนี้...
- มีเรื่องที่อยากพูดถึงอะ เรื่องคนให้อาหารหมากับเรื่องรถร่วมฯ... จดไว้ก่อนเดี๋ยวลืม
- เห็นหน้าห้องฝ่ายนิสิตฯ... ทำไมรองเท้ามันเยอะเงี้ยะ... เข้าไปปรากฏว่าประชุมบ้าน + โครงการฯ แต่ปูเป้หรือพี่มิวยังไม่มา...~
- "แถวมันจะเปลี่ยนตามอารมณ์ staff... ซึ่งมันเป็นกะเทยด้วย ปีนี้ เพราะฉะนั้นแถวมันจะขึ้น ๆ ลง ๆ นะคะน้อง" - พี่มิว
- ประชุม... แต่รู้สึกจะเป็น monologue ซะส่วนใหญ่...
- เวลาหาของควรหาให้ดี ๆ อย่ารีบเลิกกลางคัน เกือบทิ้งดินสอไว้ห้องฝ่ายนิสิตแล้วไหมล่ะ... (คือมันอยู่ใต้ผ้าห่ม ซึ่งหยิบขึ้นมาทีนึงแล้ว แต่ไม่ได้สะบัด ๆ)
- พี่เบิ้ล เป็นรองฯ ฝ่าย erotic ทุกอย่าง...
18 April 2005
Today's Log - 18/4/2005
Reached home: c.18:00
Travelled: มหาลัยเกษตร
Activities
- ไปนั่งหัดมั่ว Flash... งานค่าย ICT
- ก็แอบหนุกดี... นั่งบ้าทำเกาะในฝันเนี่ย...
- เจออุ๊กกี้ ท่าทางแอบแปลกใจนิดนึง...
- แต่ที่จริงค่าย ICT จะช่วยได้แค่ไหนยังไม่รู้เลยนะ...
- เพิ่งจะรู้จักโปรแกรม Flash เนี่ยแหละ
- "คงจะเบื่อทำเกาะกันแล้ว"... "แต่ถ้ายังอยากทำอันนี้ต่อ ก็คงห้ามไม่ได้อยู่ดีนะ" (inexact) - Badd (ภาษาไทยสะกด?)
- "ฮัลโหล คุณพอ เมื่อกี้โทรมาเหรอ..."
"เออ คือเราโทรผิด จะโทรหาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"
(คนโทรศัพท์คือจุฬา)
- Flash... วู้ ตื่นเต้น ๆ
- เกาะแบบเสี่ยวแตกของบางคน
17 April 2005
Today's Log - 17/4/2005
Reached home: c.19:00
Travelled: บ้านป้าลักษณ์, เสรีเซนเตอร์, บ้านป้าลักษณ์
Activities
- ทำบุญบ้านป้าลักษณ์
- ไม่ได้ post นานมาก... ยังไม่ได้หายไปไหนนะ... (สงกรานต์ไม่ได้ไปเที่ยวไหน อย่าเพิ่งเข้าใจผิด)
The Symbol of the Medical Profession
เพื่อน ๆ เคยสงสัยบ้างหรือเปล่า ว่าแล้วทำไมอย่างสัญลักษณ์ของ WHO ถึงมีงูอยู่ตัวเดียว ฯลฯ ?
ลองดูภาพจาก Dorland's Illustrated Medical Dictionary
(A) เป็นสัญลักษณ์ของ United States Army Medical Corps; ส่วน
(B) เป็นสัญลักษณ์ของ American Veterinary Medicine Association
ความจริงก็คือสัญลักษณ์สองอันนี้มีที่มาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
Caduceus
Caduceus เป็นคทาของ Hermes เทพเจ้ากรีกแห่งการสื่อสาร เป็นคทามีปีกที่มีงูพันอยู่สองตัว
มีเรื่องเล่าว่า Hermes เคยห้ามงูสองตัวที่กำลังจะสู้กันโดยโยนคทาไปขวางไว้ และงูสองตัวนั้นได้เลื้อยขึ้นไปพันคทานั้น Caduceus จึงถือเป็นสัญลักษณ์ของการทูต การเจรจา และสันติภาพ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแพทย์แต่อย่างใด
The Staff of Aesculapius
เทพ Apollo (เทพเจ้าแห่งความจริง สุขภาพ ฯลฯ) เคยมีความสัมพันธ์กับ Coronis นางจาก Thessaly แต่ Coronis ไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่รัก เมื่อ Apollo ทราบเรื่อง จึงสังหาร Coronis ด้วยธนู แต่ Apollo เองรู้สึกเสียใจ จึงได้ช่วยบุตรของตนที่ใกล้คลอดให้มีชีวิตอยู่ต่อ และฝากให้ Chiron centaur ผู้เปี่ยมความรู้เลี้ยงดู โดยตั้งชื่อลูกว่า Aesculapius
Aesculapius เรียนวิชาแห่งการแพทย์จาก Chiron จนมีความสามารถในการรักษาโรคอย่างกว้างขวาง ถึงขนาดที่ช่วยให้คนฟื้นจากความตายได้ ซึ่งเป็นเหตุให้ Zeus สังหารเขาด้วยสายฟ้าในที่สุด ในประวัติศาสตร์ มีผู้ที่เชื่อลัทธิมาบูชา Aesculapius ที่วิหารเพื่อขอให้พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บจำนวนมาก เป็นเวลาหลายร้อยปี และถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการแพทย์
ไม้เท้าของ Aesculapius เป็นท่อนไม้ cypress ที่มีงูพันอยู่หนึ่งตัว
มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งขณะที่ Aesculapius อยู่ในวิหาร มีงูเลื้อยเข้ามาพันรอบไม้เท้า เมื่อเขาฆ่างูตัวนั้นกลับมีงูอีกตัวเลื้อยเข้ามาและใช้สมุนไพรชุบชีวิตงูตัวแรกให้ฟื้นขึ้น ภาพไม้เท้าที่มีงูพันจึงถือเป็นสัญลักษณ์ของการรักษา ตัวงูได้ถือว่าเป็นผู้รับใช้ในการรักษาโรคของ Aesculapius และไม้ cypress ที่เป็นไม้เท้าถือว่าแสดงถึงจริยธรรมอันแน่วแน่ของแพทย์
เห็นได้ว่าสัญลักษณ์ของวิชาชีพแพทย์ที่ถูกต้องคือ the Staff of Aesculapius แต่ตั้งแต่ในประวัติศาสตร์หลายร้อยปีที่ผ่านมา ก็ได้มีการใช้ Caduceus เข้ามาปนด้วย อาจเนื่องจากผู้พิมพ์หนังสือในสมัยก่อนใช้ตรา Caduceus ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการสื่อสารและการค้า เมื่อมีการพิมพ์ตำราแพทย์ตราเหล่านี้ได้ถูกนำไปใช้และมีการสับสนกับไม้เท้าของ Aesculapius จนทำให้ได้รับการยอมรับเป็นสัญลักษณ์
การที่กรมการแพทย์ทหารบกสหรัฐฯ นำ Caduceus มาใช้เป็นสัญลักษณ์ อาจเป็นสาเหตุสำคัญของศตวรรษที่ 20 ที่ทำให้ Caduceus ได้รับการยอมรับแพร่หลายดังเช่นในปัจจุบัน
แต่อย่างไรก็ตาม หลายคนยังไม่เห็นด้วยกับการที่สัญลักษณ์ดังกล่าวจะมาปนกัน เนื่องจาก Caduceus เป็นสัญลักษณ์ของการค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกี่ยวข้องกับเป้าหมายในการปฏิบัติของแพทย์ และยิ่งไปกว่านั้น Hermes เอง เป็นผู้มีหน้าที่นำวิญญาณของผู้ตายไปสู่ Hades
สำหรับในประเทศไทย ตรากระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นรูปคบเพลิงมีปีกและมีงูพันคบเพลิง ดูเหมือนจะออกแบบตาม Caduceus เป็นหลัก (ถึงแม้ใน website ของกระทรวงสาธารณสุขจะเล่าถึงที่มาของสัญลักษณ์ทั้งสองอย่าง) โดยมีส่วนที่เป็นคบเพลิงเพิ่มเติมเข้ามา
ถึงแม้ในปัจจุบัน สัญลักษณ์ทั้งสองอย่างจะมีใช้ปะปนกันอยู่ทั่วไป ถ้าการใช้งานนั้นสื่อถึงความหมายและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของวิชาชีพแพทย์ ก็คงไม่เป็นปัญหาอะไร อย่างไรก็ตาม สัญลักษณ์ที่มีที่มาถูกต้องนั้นคือไม้เท้าที่มีงูพันเพียงหนึ่งตัว
Hamilton, Edith, "Mythology"
http://www.in-ta.net/info/aesculapius/
http://www.in-ta.net/info/aesculapius/iatros.html
http://www.artsymbolism.com/2002/KimScottcaduceuspaper.htm
http://www.moph.go.th/about/history/prav.htm
(ไม่ได้เขียนตามหลักบรรณานุกรมที่ถูกต้อง (ขี้เกียจ))
- Anderson, Douglas M., et al. Dorland's Illustrated Medical Dictionary. 30th ed. Philadelphia: Saunders, 2003.
- Hamilton, Edith. Mythology: Timeless Tales of Gods and Heroes. Warner Books ed. New York: Warner Books, 1999.
- Harrison, John. "Aesculapius." Aesculapius. 16 April 2005. <http://www.in-ta.net/info/aesculapius/>.
- Nichols, Darren. "Walk Among Gods: The Symbols of Medicine." Iatros 10.1 (1995) 16 April 2005. <http://www.in-ta.net/info/aesculapius/iatros.html>.
- Scott, Kim. "The History and Confusion of the Caduceus symbol and the Staff of Aesculapius in Medicine." Student Papers about Symbolism in Art. 2002. Virginia Commonwealth University Honors Department. 16 April 2005. <http://www.artsymbolism.com/2002/KimScottcaduceuspaper.htm>.
- "ประวัติกระทรวงสาธารณสุข." เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข. กระทรวงสาธารณสุข. 16 April 2005. <http://www.moph.go.th/about/history/prav.htm>.
Image sources: WHO; Dorland's Illust. Med. Dict.; MOPH; http://www.in-ta.net/info/aesculapius/
Last edited: 2008-09-07 05:55
16 April 2005
Today's Log - 16/4/2005
Activities
- นั่งโหลด driver ต่อ...
- ครอบครัวเกตุมาทานข้าว
- ไอ้เรื่อง symbol น่ะ... จะเขียนตั้งแต่วันที่ 12 แล้วดองไว้นาน... พอจะเขียนจริง ๆ ก็ใช้เวลานานเหลือเกิน (มัวแต่คุย)
15 April 2005
Today's Log - 15/4/2005
Reached home: c.19:30
Travelled: ไร่หินซ้อน สระบุรี
Activities
- ตอนบ่ายไปไร่หินซ้อน
- ตอนค่ำไอจนปวดหัว ไม่ไหวแล้ว... (หวัดรับประทาน)
14 April 2005
Today's Log - 14/4/2005
Activities
- ลูกพี่ลูกน้อง 5 คนมา (ยังอยู่น่ะแหละ)
- ไม่รู้จะพูดถึงอะไรน่ะ...
13 April 2005
Today's Log - 13/4/2005
Activities
- ลูกพี่ลูกน้อง 5 คน (พี่เบล พี่โต พร กวาง พัฒน์) มา
- สงกรานต์อะไรฝนตกเนี่ย... แต่ไม่ได้เล่นสงกรานต์กับฟ้าหรอกนะ... ปรากฏว่าปีนี้ไม่ได้เล่นสงกรานต์เลยแหละ
12 April 2005
Today's Log - 12/4/2005
Reached home: c.07:10
Travelled: วัดผาสุกมณีจักร
Comments
- ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่อวยพรมานะครับ...
11 April 2005
Today's Log - 11/4/2005
Left home: c.07:00
Reached home: c.15:00
Travelled: รพ.ราชวิถี, A&L, พันธุ์ทิพย์, คณะ, รพ.ราชวิถี
Activities
- เอา MuVo V200 ไปเคลมที่ A&L
- ซื้อ RAM
- ไปเอาแฟ้มที่ลืมไว้ที่คณะ
- ดูตารางเรียน + จดรายวิชาที่ต้องลงทะเบียน (ถ้าไม่ได้ต้องเอาแฟ้มไม่มาหรอก และก็ดีแล้ว เพราะพบว่าเค้าจะอัพโหลดให้ในเร็ววัน)
- พยายาม format คอม
- แบกโน้ตบุ๊ค (รวมกระเป๋าประมาณ 5 โลเศษ) เดินจากสถานีรถไฟฟ้า (พญาไทด้วย เพราะขี้เกียจข้ามถนน) จนถึงไปขึ้นรถเมล์หน้า Big C ไปคณะ แล้วขึ้นรถไฟฟ้ากลับรพ. สรุปว่าเดินทางเป็นสี่เหลี่ยมล้อมแถวสระปทุมครบ...
- เคลมประกันแบบ... น้านน นาน... แต่มันแปลกมากเลยนะ ที่ LCD เจ๊ง มันเป็นเหมือนนอย (ธันยพร) เป๊ะ แล้วเป็นวันเดียวกัน ซึ่งก็ซื้อมาวันเดียวกันด้วย
- รายวิชาที่ต้องลง 3090201 ลงเป็นกลุ่ม นะ
- ปีนี้ได้หยุดกีฬามหา'ลัยด้วย...
- จะ format คอม... แค่พยายาม backup My Docs ก็กินไปเกือบทั้งวันแล้ว แบบบังเอิญ My Documents ใหญ่ไปหน่อย backup ใส่ทั้ง USB HDD หรือคอมอีกเครื่องก็ไม่ได้... (เกือบ 5 GB) ที่สุดแล้วเลยต้องนั่งล้าง My Docs ก่อน จนเหลือ 3 GB กว่า ๆ ถึงรอด... ที่สุดแล้วคืนวันนี้ก็ยังไม่ได้ลง programmes อยู่ดี
- Reinstalled Windows
- ควรจัด My Documents ให้เป็นระเบียบ
10 April 2005
Today's Log - 10/4/2005
Activities
- ตอนแรกนึกว่าจะตามพ่อไป [พัน-ทิบ] (สะกดไม่ถูก) แต่พ่อดันไม่ว่าง สรุปว่านั่งไร้สาระหน้าคอมเกือบทั้งวัน แย่...
- เป็นวันที่ไร้สาระ มาก มาก
9 April 2005
Today's Log - 9/4/2005
Reached home: c.17:30
Travelled: Dunkin', Sizzler (Disc), SF Music City (MBK)
Activities
- นัดห้อง 144 (ที่จริงนัดวันเสาร์ที่ 1 ของเดือน 4 เวลา 4 โมงเช้า แต่เลื่อนมา)
- ไม่ได้ไปเลี้ยง MADEP... ฝากพีรวัชร์ไป...
- เวลาผ่านไปเร็วจัง... เฮ้อ...
- เมื่อกี้นั่งดูแฟนฉันในช่อง 7 (เอาคอมลงไปข้างล่าง แต่ไม่ได้เอาสายไฟไป ก็เลย offline)... รู้สึก ให้ฟีลแปลก ๆ บอกไม่ถูก...
- ปาล์มกะยุ้ยร้องเกะ (ต้องเห็น)
- "ทำไมแต่ละคนไม่ค่อยเปลี่ยนกันเท่าไรเลย" - ไอซ์ มนัสมนต์
- เรื่องหมอแรมโบ้ของไอซ์
- เวลาเดินทางน่ะ หัดเผื่อเยอะ ๆ หน่อย...
- ปาล์มกะยุ้ยร้องเกะ (ต้องเห็น)
8 April 2005
Today's Log - 8/4/2005
Reached home: c.19:10
Travelled: อปร, ตึกไผ่, หอใหม่, ตึกไผ่, อปร, อานันท, ตึกไผ่, อานันท, ตึกไผ่, บ้านณัช
Activities
- นัดประชุมงานวันอานันทมหิดล... แต่ปรากฏว่าไม่มีอะไรให้ประชุม (ทั้งเรื่อง และคน)
- ก็เลยดูพี่เป๊กพี่กุ๊กนั่งออกข้อสอบกับต้องลักษณ์ เค้ก (ครีม)
- ก่อนหน้านั้นไปนั่งหอใหม่ ช่วยพี่เบิ้ลคิดชื่อกลุ่ม rally (ลิเกไปหน่อย... ขอโทษนะครับ)
- ช่วยขายชุดนิดนึง... เดินไปกลับสหกรณ์อีกรอบ
- ไปเอาแผ่น Office 2003 กับนัท
- บัตรรถไฟฟ้าหมด... ซื้ออีกทีเมื่อไรดีเนี่ย
- Access point เป็นอะไรเนี่ย... อย่าเพิ่งเจ๊งนะ... (ตอนนี้ใช้สายเสียบอยู่)
- ลืมแฟ้มไว้ฝ่ายวิชาการ! (อันนี้โจ้ท่าทางจะจำได้แม่น)
- เปิด ๆ ดูทำเนียบค่ายสมองแก้ว #11 ดู... เห็นมีน้องฝน น้องมด วิทวัส... น่าสงสัยว่าตอนอยู่ค่ายไม่ได้รู้จักหรือเพราะจำไม่ได้
- การพบกันโดยมิได้นัดหมาย หน้าบ้านนัท
- "เห็นค่อย ๆ โตขึ้นมาอย่างนี้มันไม่รู้สึกหรอก แต่ถ้ารู้จักตอนนี้ แล้วไปเห็นรูปน่ะ มันไม่เหมือนกัน" (inexact) - ณัช
- ข้อสอบงานวันอานันท... ทำไมความรู้ชีวะม.ปลายมันหายไปไหนหมดแล้วเนี่ย...
- ถ้ากลับบ้านค่ำอย่าพยายามแวะที่ไหน ถ้าไม่อยากขึ้นปลากระป๋อง 52 (ที่จริงก็ไม่แน่นขนาดนั้นหรอก...)
- ไม่รู้อะ ไม่ทันเห็น (มัวดูทำเนียบค่ายสมองแก้ว #11 อยู่)
7 April 2005
Today's Log - 7/4/2005
Reached home: c.18:20
Travelled: คณะ, ม.เกษตร
Activities
- ขอโทษนะครับ... ไม่ได้ไปช่วยขายของช่วงเช้าตามที่บอกไว้...
- ที่จริงก็แทบจะไม่ได้ช่วยขายเลย วันนี้
- สัมภาษณ์ ทดสอบสุขภาพจิต ไม่ได้ทำเลย...
- Main อยู่ที่งานคารวะผู้อาวุโส
- งานรอบ 2 ช่วงนี้เป็นอันว่าเราไม่มีหน้าที่... เพราะตอนนั้นปูเป้ไม่รู้เบอร์โทร... (ดีหรือไม่ดีเนี่ย)
- งานคารวะผู้อาวุโส... ดู ๆ ก็ดีนะ ที่อาจารย์จะได้มาเจอกันหลังจากทำงานจบไปแล้วแบบนี้ (แต่เหนื่อย... เสิร์ฟน้ำ)
- เกือบลืม PCT ไว้ห้อง สพจ.
- เดี๋ยวนี้รถร่วมฯ ก็ปิดประตูกันแล้ว... ดีจัง (ไม่เหมือนตอนที่เริ่มแปะสติกเกอร์ รถคันนี้ผ่านการตรวจสอบประตูเปิดปิด... ช่วงแรก ๆ แล้วก็เห็นเปิดทิ้งไว้เหมือนเดิม...)
- ค่าย ICT... ไม่รู้ว่าจะไปช่วยได้หรือเปล่านี่สิ...
- หาห้อง 301 เจอ
- ที่ อ.ยาใจ ให้สัมภาษณ์มติชน
- 104 เลี้ยวซ้ายที่แยกเกษตร (มีประโยชน์ ๆ)
6 April 2005
Today's Log - 6/4/2005
- วันที่ระลึกการสถาปนาบรมราชจักกรีวงศ์
Reached home: c.19:30
Travelled: คณะ
Activities
- วันนี้ประกาศผลรับตรงรอบสอง
- ขายชุดนิสิต
- อ้อย... ช่วงนี้อะไรเนี่ย กลับบ้านแต่ละวัน energy bar แดงเถือก แทบไม่ได้ออนไลน์เลย... มันจะงานเงินอะไรเยอะขนาดนั้น...
- วุ่น ๆ จังเลย... ระบบอะไรนี่ยังต้องปรับปรุงอีก เยอะ มาก
- ขายชุด... ชั้นไปแปดโมงนึกว่าสายแล้ว โทร.ไปเพิ่งจะปลุกเจน... เจนเรียกมาเก้าโมงเจ้าตัวมาเมื่อไรไม่รู้ แล้วได้เริ่มขายจริง ๆ ตอนห้าโมงเย็น...
- ประกาศผล
- "คนที่ไม่ติดไม่ใช่ไม่เก่งนะครับ ต้องโทษคนออกข้อสอบที่ไม่ออกตรงที่ลูกเราจำได้" - อ.ประสงค์
- ขายของ
- บางทีอะไร ๆ ที่สำคัญมันก็ดูก๊อกแก๊กไปมาเสียเหลือเกิน...
- มุขอะไรสักอย่างของเจนนะ... ที่พี่เอ๋แอบไม่ทันน่ะ...
5 April 2005
Today's Log - 5/4/2005
Reached home: c.00:50 next day
Travelled: คณะ, งานกาชาด
Activities
- ไปช่วยงานกาชาด
- วันนี้... ตอนแรกที่พี่เนถามนึกว่าขาดคน ถึงลงชื่อเพิ่มไป (ตอนแรกไม่ได้ลงไว้) แต่ปรากฏว่าคนเยอะมาก ๆ (เอารถใหญ่ไป) เลยไปเป็นเครื่องประดับประกอบฉากว่างงาน...
- แอบไปสายนิดนึง
- เจอซันนี่... ตอนแรกนึกว่าใคร (จำไม่ได้)
- เจอ พีค กับ พั้ฟ (ที่จริงเจอตั้งแต่วันที่ 3) ที่เจอตอนฝึกงานที่ รพ.ชลประทานตอน ม.4
- แต่ก็ไม่ได้เดินงานอยู่ดี
- ไปเจอคนเต็มคันรถ
- "หัวใจนะครับ... อันนี้ผ่าให้เห็นข้างในมีสี่ห้อง... อันนี้แสดงเส้นเลือดที่เข้าออกหัวใจ..."
- เผลอ ๆ กลับกะรถคณะจะเร็วกว่าให้พ่อมารับ
4 April 2005
Today's Log - 4/4/2005
Reached home: c.18:00
Travelled: ศูนย์ฯ สิริกิติ์, หน้า รพ.รามาฯ
Activities
- ฝนตก... ร่มก็เจ๊ง... หยิบคันใหม่ก็ได้ ขี้เกียจรอรถตู้/166... นั่งแท็กซี่ไป MRT พหลโยธิน (เป็นการเสี่ยงดวงที่ค่อนข้างฉลาด เพราะภายหลังพบว่าอนุสาวรีย์ติดหนัก)
- เดินงานหนังสือน่ะแหละ แล้วกลับบ้าน
- post ย้อนหลัง 4 วัน... เฮ่อ...
- ตื่นสายไปหน่อย... ไม่งั้นอาจจะพยายามลุยฝนไปแล้ว (ความจริงคือให้คนไปส่งปากซอย)
- ค่าแท็กซี่ ฿117 จ่ายไป ฿120 คนขับหยิบเงินทอนให้!... ตื้นตันที่สุด... จะบอกเค้าไม่ต้องทอนแต่เค้าก็ยื่นให้แล้ว ไม่นึกว่าจะมีโอกาสเจอแท็กซี่ทอนเงิน 3 บาท... ซึ้งจริง ๆ...
- ไม่ได้กดตัง มีติดตัวไปพันห้า หมดตัวกลับบ้าน (ทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยได้ซื้ออะไร...)
- ขึ้น 166 หน้า วพม... ถึงอนุสาวรีย์ไม่ได้ลุกให้คนอื่นนั่ง... แย่ ๆ (ข้ออ้าง: ง่วง + ของเยอะจัด)
- ทำไมมีแต่เรื่องแย่ ๆ... Pope ก็สิ้นพระชนม์แล้ว (ไม่ใช้ทรงตายแล้วนะ) ไอ้ระเบิดบ้า ๆ นี่อีก แต่เรื่องรถไฟฟ้าไม่เห็นจะลงข่าว?
- แต่ HONet is now back online นะ...
- แล้วก็... เพิ่งรู้ว่าภวินท์ไปเมื่อเช้า... ก็ตอนนั้นบอกว่ารู้ว่าเครื่องออกวันไหนแล้วให้บอกนะ แล้วภวินท์ก็เงียบไป... แต่เพิ่งนึกได้ว่า เอ... ไม่ได้ให้เบอร์ใหม่ไว้นี่นา? (ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพแล้วกันนะ)
- กลับบ้าน
Quote of the day
- "เดี๋ยวอ่านไปก็ยับอยู่ดี จะมาเลือกทำไม เสียเวลา" - โอ้
- โทรศัพท์ 2 คู่... เพื่อ?
- ควรฟังวิทยุจราจรเวลาจะวางแผนการเดินทาง