Showing posts with label Advertising. Show all posts
Showing posts with label Advertising. Show all posts

18 January 2009

18 January 2009

เกิดอาการเจ้าหนี้ทวงอีกแล้ว

แต่ยังไม่มีเรื่องจะโพสท์... เก็บตกเรื่องที่ลืมพูดถึงในบล็อกที่แล้วก่อนแล้วกัน

  • เรื่องโฆษณา:
    • ชอบ mascot ตัวฟ้า ๆ กลม ๆ ของ AIS มาก... ขอตบมือให้คนออกแบบ
    • ชอบ "เห็ดฮังการี" ด้วย (ที่จริงก็สืบเนื่องจาก "แว่น" ด้วยแหละ
  • ไป Bangkok Street Show ที่สวนลุมพินีมาเมื่อวันที่ 19 ธ.ค... ก็ไม่ถึงสองชั่วโมงมั้ง ไม่ได้เดินทั่ว/ดูอะไรมากเท่าไร แต่ชอบบรรยากาศมากมาย อากาศเย็นสบาย ผู้คนเดินขวักไขว่ในสวนสาธารณะ ดูรื่นเริงแบบไม่เหมือนประเทศไทยอย่างบอกไม่ถูก

พูดถึงแล้ววันนี้ไม่ค่อยหนาว แต่สัปดาห์กว่าที่ผ่านมานี่เย็น (ยะเยือก) ดีจริง ๆ... อุณหภูมิต่ำกว่า 20 ทุกเช้าเลย

รู้สึกว่าไม่ได้เจออากาศเย็นแบบนี้ตั้งแต่ ม.2 (1999) แล้วนะเนี่ย (ปีนั้นหนาวไม่นานด้วย)

แต่ตอน ม.2 นั่นยังใส่เสื้อกันหนาวไปโรงเรียน... เดี๋ยวนี้นี่ไม่รู้มีปัญหาอะไรกับเสื้อกันหนาวหรือเปล่า เพราะเห็นไม่เคยใส่ไปโรงเรียนเลยตั้งแต่ ม.4 แล้ว (ถึงเคยพูดเล่นว่าจะเอาเสื้อกันหนาวที่ใส่เล่นสกีไปใส่ประชดในห้องเรียน อปร ก็ตาม)

ที่จริงแอบนึกถึงข้อความตอนนึงในข้างในกระโปรงม่วง โดยเพชรน้ำหนึ่ง (หนังสือไปอยู่ไหนซะละ หาไม่เจอ)

เอาเถอะ ว่าง ๆ (แปลว่าโอกาสน้อยมาก) เห็นทีต้องทำ OPAC หนังสือในบ้านสักที

แต่ตอนนี้กำลังงงว่า psychrometer (hygrometer แบบกระเปาะแห้ง-กระเปาะเปียก) มันทำงานยังไงกันแน่

ใครพอรู้ก็ช่วยสงเคราะห์หน่อยแล้วกัน

หมดเรื่องโพสท์ละ

แถมลิงก์ส่งท้าย เจ๋งดี: http://en.wikipedia.org/wiki/File:DescenteInfinie.ogg

นี่ด้วย: http://en.wikipedia.org/wiki/File:Grey_square_optical_illusion.PNG

4 January 2009

4 January 2009

ที่สุดก็ดองข้ามปีจนได้

เกือบจะโพสท์ได้ครบทุกเดือนอยู่แล้วเชียว

เอาเถอะ ไหน ๆ ก็เข็น (อย่างยากลำบาก) จนเครื่องติดแล้ว เรากลับสู่โหมดปกติ (ของบล็อก) กันดีกว่า...

ไล่ย้อนหลังเป็นเรื่อง ๆ ไปเลยแล้วกัน

Happy New Year 2009!

กะจะตั้งริงโทนเพลงพรปีใหม่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ทำ... (แต่ก็ดีแล้ว เพราะแทบไม่มีโทรศัพท์เข้าเลย)

26 December 2008

ขอไม่พูดถึงเรื่องสอบ (ไม่เคยพัฒนา)

ด้วยว่าครั้งนี้สอบช่วงเช้า เลยเหลือว่างอีกครึ่งวัน ครั้นจะกลับบ้านเลยก็รู้สึกใช่ที่ชอบกล แต่แล้วก็ไม่มีที่ไปอยู่ดี

เลยแกร่ว ๆ ดูพวก rotate 4 ถ่ายรูปกันอยู่พักใหญ่ จนกุ้ง-ยุทธนา ชวนเป็นเพื่อนเดินไปเอาเค้กที่สีลม ก็เลยออกมา... แต่ไป ๆ มา ๆ คุณกุ้งเกิดต้องไปตามหากระเป๋าพยาบาลที่ยืมไปเยี่ยมบ้านสัปดาห์ก่อน ก็เลยยังไม่ได้ไปเอาเค้ก ไอ้เราก็... เมื่อกี้คุยเรื่องเห็นป้ายว่า LoFt มาเปิดที่จามจุรีสแควร์ ก็เลย... ไปก็ไปวะ (สอบเสร็จคราวก่อนก็ไปสำรวจจามสแควร์ อะไรมันจะสิ้นคิดขนาดนี้)

ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินไป (ช่างไม่คุ้มเสียนี่กระไร แต่มาโผล่ฝั่ง ถ.ราชดำริแล้ว ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดนอกจากเดิน) ก็ไปขึ้นลงบันไดเลื่อนสำรวจ ๆ อีกรอบ ก็เจอว่านอกจาก LoFt แล้ว...

Daiso at Chamchuri Square

มี Daiso มาเปิดด้วยแฮะ

(ส่วน LoFt ไม่ยอมให้ถ่ายรูป)

LoFt ก็... ขนาดร้านใหญ่ปานกลางอยู่ สัก 3 unit ได้มั้ง (ตอบละนะ) ส่วน Daiso นี่ เดินเข้าไปนี่ต้องคอยระวังกระเป๋ากลัวจะเกี่ยวอะไรร่วงกราวลงมา

(พูดถึงกระเป๋านี่... วันนี้แบกชีทไปด้วย ก็ไม่ได้เยอะแต่ว่าหิ้วไปหิ้วมาทั้งวัน เลยชักสงสัยว่าพวกผู้หญิงเค้าทนแบกบ้านใส่กระเป๋า Harrods (ปลอม) หิ้วไปมาทุกวันได้ยังไงกัน)

ขึ้นไปศูนย์หนังสือจุฬาฯ เห็น gift set ผ้าขนหนูหรรษา น่ารักดี (แต่ไม่กล้าถ่ายรูป หลังจากเผชิญหน้ากับพนักงาน LoFt มา)

แล้วก็เจอว่าเสื้องานบอลออกแล้ว (อบจ. นี่... แต่ละปีจะทำงานต่อเนื่องกันสักนิดไม่ได้เลยรึไง เว็บเกือบ ๆ จะดีเมื่อไรก็เริ่มใหม่เมื่อนั้น คนจะดูนี่ต้องควานหาใหม่ตลอด) ก็เลยได้จุดหมายไปศาลาพระเกี้ยวต่อ...

เดินต๊อก ๆ ทะลุผ่านซอยข้างคณะบัญชี (หน้าตึกมหิตลาธิเบศร์ ซึ่งตอนแรกชื่อตึกนวัตวิทยาการ) อ๊ะ มีตลาดนัดด้วยแฮะ (เฉียด ๆ เข้าไปดูหน่อย แต่ก็ไม่เคยซื้ออะไร)

เสื้องานบอลปีนี้มีแบบเดียว (ไม่แยกชาย-หญิง) และบอกขนาดเป็นนิ้วครับ

ถูกใจมากมาย... ทำไมไม่ใช้ระบบนี้เป็นมาตรฐานให้หมดนะ จะได้ตัดปัญหาความ [arbitrary] ของขนาดเสื้อที่ช่างเป็นปัญหาตลอดกาลไปได้ซะ

เสื้องานบอล ไซส์ 38

(ตอนที่ไปซื้อนี่ไซส์ 40 กับ 44 หมด ไม่งั้นก็อาจจะพะวงเลือกอยู่อีกนานอยู่ดี)

เรื่องปัญหาขนาดเสื้อนี่เห็นสด ๆ ล่าสุดก็เรื่องเสื้อ extern นี่แหละครับ

แต่อันนี้ปัญหาหลักเกิดจากเสื้อที่ลองกับเสื้อที่ได้จริงขนาดไม่ตรงกันเสียมากกว่า

ขำดี... วันที่ 27 พ.ย. เป็นเทศกาลวิตกจริตหมู่ ไปนั่งยืนดูเพื่อน ๆ ลองเสื้อแล้วลองอีก (เชื่อได้ว่าปุริมลองเปลี่ยนไปเปลี่ยนมากว่า 20 รอบ)

(ที่จริงผู้เขียนก็ไม่ได้น้อยหน้าเท่าไร... หลังจากสั่งไปแล้วโดน psycho ก็ไปวิ่งเต้นขอแก้ เสร็จแล้วก็แก้กลับอีก)

แต่เอาเถอะ ประเด็นก็คือถ้าบอกขนาดเสื้อเป็นตัวเลขตั้งแต่ต้น ก็ไม่ต้องมาตั้งชื่อขนาดให้ผิดไปจากความเป็นจริงเพื่อเพิ่มความมั่นใจของผู้ซื้อให้วุ่นวายอีก (ทำไมเสื้อผู้หญิงถึงมี SSS ถึง M ขณะที่เสื้อผู้ชายมีขนาด S ถึง XXL? เพราะผู้หญิงอยากได้ชื่อว่าตัวเล็กส่วนผู้ชายไม่อยากหรือเปล่า)

...

ได้เสื้อแล้วก็ขึ้นรถป๊อพไปสยาม... (ไม่มีทางอื่นไป เพราะไม่มีแผนไปหอกลางหรือรร.เตรียมฯ และไม่อยากเดิน)

แต่ก็ยังไม่ได้ขึ้นรถไฟฟ้ากลับ เพราะมาสยามแล้วก็ต้องแวะ Kinokuniya/Asia Books พอเป็นพิธีก่อน

และก็เผื่อว่าในฐานะที่เพิ่งสอบเสร็จ อาจจะได้บังเอิญเจอใครด้วย (เรื่องของเรื่องคืออยากอวดเสื้อ)

ขึ้นไป Kino... ติดใจ A History of Thailand (Chris Baker & Pasuk Phongpaichit) ก็เลยเดินไปสำรวจราคา Asia Books (ตาม routine) ปรากฏว่าไม่มีของ แต่ที่สยามดิสฯ มี ก็เลยเดินต๊อก ๆ ไปสยามดิส (แต่ดันเสร่อไม่รู้ว่าเค้ามีงาน Asia Books Carnival ที่ Living Mall ชั้น 3)

ที่ Asia Books สยามดิสฯ ก็เจอผลของปรากฏการณ์กระแสคลื่นซัดถล่มของ Twilight... อะไรมันจะปานนั้น

Twilight series out-of-stock notice at Asia Books

(ป้ายบอกให้ลงชื่อจองหนังสือ)

ได้หนังสือแล้วแต่ยังไม่เห็นเจอใครเลย... (ยังไม่ได้อวดเสื้อ) ก็เลยขึ้นไปสำรวจหน้าโรงหนังดีกว่า (กะว่าเจอชัวร์ ไม่เจอก็จะกลับมาโพสท์บล็อกว่าแปลกที่ไม่เจอใครละ) แล้วก็เจอจริง ๆ: เจอเบิร์ด-นรเชษฐ์ กับเค้ก-กฤษณะ ก็หายประสาทกับเสื้อสักที

ว่าไปแล้ววันนี้ราวกับโรงเรียนครึ่ง กทม. สอบเสร็จพร้อมกันโดยแอบนัดหมายเล็ก ๆ... ทั้งห้าง (โดยเฉพาะโรงหนัง) มีแต่เด็กนักเรียนเต็มไปหมด

เดินไปเดินมาเย็นละ... กลับบ้านได้สักที

จบวัน จบปี (ถ้าสอบไม่ตกน่ะนะ) เตรียมเป็น extern โง่ต่อไป - -'

12 December 2008

สืบเนื่องจากกระทู้นี้ที่บอร์ด DekTriam.net...

(เป็นกระทู้ล็อกเฉพาะสมาชิก... คาดว่าผู้ที่หลงเข้ามาอ่านบล็อกจะมีอยู่ท่านเดียวมั้งที่เป็นสมาชิกบอร์ด ยังไงคนอื่นสงสัยเรื่องเนื้อหาติดต่อหลังไมค์ละกันครับ)

ก็เป็นกระทู้กระแสอีกกระทู้นึง เกี่ยวกับเรื่องที่เป็นข่าวหนังสือพิมพ์เมื่อเร็ว ๆ นี้... แต่ประเด็นที่สงสัยมากคือเรื่องปฏิกิริยาตอบสนองของชาวบอร์ด

เพราะตัวเองอ่านดูแล้วก็รู้สึกอยู่ว่าประชดได้สะใจ+ขำดี และออกชัดเจนมาก แต่คนตอบกระทู้จำนวนมากกลับไม่คิดอย่างนั้น ก็เลยสงสัยว่าสมัยที่อายุเท่านั้นความคิดเรายังตามไม่ทันกันขนาดนั้นเชียวเหรอ หรือว่ามันเป็นความแตกต่างของบุคคลมากกว่า?

(ผู้อ่านบล็อกที่กล่าวถึงเห็นแล้วก็ช่วย comment ด้วยนะครับ)

6 December 2008

เห็นนี่ที่ตลาดมวกเหล็ก...

Game cartridges

ผู้อ่านบางคนอาจจะเกิดไม่ทัน... มันคือตลับเกม (เครื่อง Famicom?) ครับ...

ไม่ได้เก่าแก่มากมายด้วย เห็นตราประทับเจ้าพนักงานบอกว่าปี 2546

ใครยังมีเครื่องอยู่บ้างไหมเนี่ย... เหอะ ๆ

1 December 2008

วันนี้วันเอดส์โลกครับ

ปีนี้เพื่อน ๆ คุ้นเคยกับริบบิ้นแดงกันแล้ว... คำถามจะเป็นว่าวันไหนแทน

พอดีบ่ายวันนี้เป็น SDL (ที่จริงควรไปช่วยรับเสด็จ แต่ไม่มีเสื้อแขนยาว) ช่วงกลางวันก็เลยแวะไปดูงานเทียนส่องใจที่ลานอาสากาชาด

เพิ่งรู้ว่า NGOs ที่ทำงานเกี่ยวกับ HIV/AIDS มีเยอะขนาดนี้...

ซุ้มเยอะแยะมากมาย แล้วที่ต่างก็มีกันหมดก็คือโบรชัวร์แจกจำนวนมาก... แต่เห็นอันนี้แล้วเตะตาที่สุด

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้ในกลุ่มชายรักชาย

เค้าเจาะจงกลุ่มเป้าหมายกันขนาดนั้นเชียว~

(เป็นโบรชัวร์ของคลินิกสุขภาพชาย ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ครับ)

Motor Expo: What the..?

ผมเคยบ่นเรื่องความตอแหลของสังคมเรื่องโลกร้อนไปแล้ว...

แต่ผมไม่อยากจะเชื่อครับว่าความตอแหลที่ว่านั้นมันจะมากได้เพียงนี้

Motor Expo 2008 ticket

ไม่อยากจะเชื่อครับ

ผมไม่แน่ใจว่าคนคิดใช้ความหน้าด้านหรือความอยู่ในกะลาทำออกมา แต่มันเป็นไปแล้วจริง ๆ

ทุกคนคงทราบกันอยู่แล้วว่าการเผาไหม้เชื้อเพลิงของยานพาหนะเป็นสาเหตุหลักอย่างหนึ่งของภาวะโลกร้อน แต่ทำไมงานที่มีขึ้นเพื่อส่งเสริมการใช้ยานพาหนะดังกล่าวโดยตรงถึงกล้าเอาปัญหาโลกร้อนมาขายได้?

ผมพยายามคิดว่าคงจะพอให้อภัยได้บ้างถ้าในงานมีการนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปลดปล่อย CO₂ เป็นจุดเด่น แต่จากการประชาสัมพันธ์ที่เห็น ข่าวที่ออกมา และการสอบถามดู ก็หาได้เป็นเช่นนั้นไม่

ถ้าไม่เรียกว่าตอแหล ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วครับ

Update: เรื่องโฆษณา

ใน On ads, rhythm and the BTS ผมลืมพูดถึงโฆษณาที่ผมรำคาญอีกชุดครับ...

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=CKqi2IZ4RRI">Link</a><a href="http://www.youtube.com/watch?v=0RhBtCyN_ew">Link</a>

ผมไม่คิดว่าเมืองไทยประกันชีวิตจะได้ประโยชน์จากโฆษณาที่เปรียบเทียบลูกค้ากับคนที่เต้นแร้งเต้นกาบ้า ๆ บอ ๆ กลางถนน หรือคนแก่หูตึง/ความจำเสื่อม/หื่น ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นภาพแง่ลบทั้งสิ้น ในโฆษณาอันหลัง แม้ว่าโฆษณาจะต้องการสร้างภาพพนักงานให้บริการตอบคำถามได้ทันใจ แต่สารที่ผมได้รับคือภาพความสาระแนและความรู้สึก [patronizing] ที่ไม่เป็นปัจจัยส่งเสริมให้อยากใช้บริการเลย

แต่พูดถึงโฆษณาประกัน ก็มีอันนี้ที่ถูกใจอยู่ครับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=WvjAE5qkvZg">Link</a>

โฆษณาประกันชีวิต My Lite ของ Ayudhya Allianz C.P. ครับ ผมรู้สึกว่าองค์ประกอบของโฆษณาช่าง [comic] มาก และได้จังหวะลงตัวพอดี จนเวลาเห็นบนรถไฟฟ้าก็อดยิ้มไม่ได้ และมักจะแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ทีเดียวครับ (จังหวะที่เศษเค้กหล่น - ไม่แน่ใจว่าผมเป็นอยู่คนเดียวหรือเปล่านะ)

โฆษณาอีกอันที่ไม่ชอบครับ: Federbräu

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=ndYn6nqUn3A">Link</a>

ดูแล้วไม่รู้สึกว่าตัวละครผู้ชายจะเป็นคนดีตรงไหนเลยครับ นอกจากจะเก๊กจนน่าถีบแล้ว ยังแสดงท่าทีจ้องจะกินผู้หญิง หลอกลวง ไม่จริงใจ ฯลฯ ถามจริง ๆ เถอะว่าคนที่เจตนาดีจะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ตะโกนเรียกตั้งแต่ตอนแรกที่เห็นคนลืมพาสปอร์ตไว้แล้ว?

แต่เอาเถอะครับ ล้างด้วยโฆษณา ปตท. (เติมความผูกพัน) ดีกว่า (feel good จนเกือบจะเอียน)

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=iHdCAw3QDhk">Link</a>

Edit:

มีอีกเรื่องที่ลืมพูดถึงครับ: ถูกใจฉายาแพะการเมือง ที่สมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทยตั้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมากมายครับ ตรงใจสุด ๆ - ผมเองยังพูดอยู่หลายครั้งว่าความผิดอย่างเดียวของตำรวจในเหตุการณ์วันที่ 7 คือ [incompetence] เท่านั้นเอง

Last edited 16:28, 4 January 2009

Copyright of posted media are owned by their respective owners.

26 September 2008

On ads, rhythm and the BTS

ครับ หัวข้อนี้ที่จริงค้างมาเดือนกว่าแล้วยังไม่ได้เขียนสักที จนชักน่ากลัวว่าจะเริ่มล้าสมัย ยังไงอาจจะต้องจินตนาการย้อนไปนิด คงไม่เป็นไรนะครับ

อยากจะพูดถึงเรื่องโฆษณา...

ปัจจุบันนี้ผมไม่ค่อยได้มีโอกาสติดตามสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์เท่าไรครับ (ห่างเหินกับกล่องสี่เหลี่ยมนั้นมากขึ้นทุกที)

ภาพยนตร์โฆษณาที่มีโอกาสได้เห็นส่วนใหญ่ก็จะเหลือแต่ที่ฉายบนสถานี/รถไฟฟ้า BTS เสียเท่านั้น

เพราะขนาดเพลง "เรื่องจริง" ของบอย(ด์) ที่ช่วงตอนอยู่ดมยา (วิสัญญี - ประมาณต้นเดือน ก.ค.) นับว่าได้ยินจากวิทยุในห้องผ่าตัดแทบจะทุกวัน วันละหลายครั้ง จนเกือบจะเอียน (แข่งกับ "เพื่อน" ที่ร้องใหม่เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์รัก สาม เศร้า) ผมยังเพิ่งจะทราบว่าเป็นเพลงประกอบโฆษณา Canon ก็ตอนที่เห็นอยู่ในอัลบั้ม Songs from Different Scenes #5 นี่เอง

ซึ่งเรื่อง SFDS นั่นก็ไม่ได้รู้มาจากไหน ก็โฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้านั่นแหละครับ

ความจริงเรื่องโฆษณาบนรถไฟฟ้า ชมรมหรี่เสียงกรุงเทพคงไม่เห็นด้วยเท่าไร

ซึ่งเรื่องเสียงดังนี่ผมก็เห็นด้วยอยู่เหมือนกันนะครับ แต่พูดไปก็ไม่แน่ใจว่าจะเข้าตัวกลายเป็น [hypocrisy] หรือเปล่า เพราะผมก็อาศัยโฆษณาเหล่านั้นเพื่อความบันเทิงเหมือนกัน (แต่ก็สังเกตอยู่ว่าระดับความดังมันฟังดูไม่ค่อยจะเสมอต้นเสมอปลายเอาเท่าไร)

เอาเถอะนะครับ ยังไงก็อยากจะขอพูดถึงโฆษณาที่เห็นช่วงที่ผ่านมา (บวกกับอีกเดือนเศษ) สักหน่อย

ผมชอบโฆษณา "50 ปี การไฟฟ้านครหลวง" ครับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=MjCsCZb2VdE">Link</a>

ด้วยความที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับหลักการสร้างสรรค์สื่อโฆษณาแต่อย่างใด ก็จะไม่ขอวิจารณ์รายละเอียดนะครับ

นอกจากนี้ก็มีโฆษณาของธนาคารกสิกรไทย ที่ไม่ได้ติดใจอะไรมากมายหรอกครับ เพียงผมรู้สึกว่าสามารถสร้างเอกลักษณ์ให้คนดูจำได้ดีมาก (แต่จะกลายเป็นจำโฆษณาได้ดีกว่าผลิตภัณฑ์หรือเปล่านี่ไม่ทราบนะครับ) ขนาดที่ผมเห็น trailer โฆษณาตัวอย่างภาพยนตร์ของจริงบางอันแล้วยังนึกว่าตอนจบจะเป็นโฆษณาธนาคารกสิกรไทย แต่ไม่ใช่เสียนี่

ส่วนโฆษณาที่น่ารำคาญที่สุด (ซึ่งจากการ google ดูคร่าว ๆ ผมว่ามีคนเห็นด้วยกับผมไม่น้อย) ก็คงไม่พ้นโฆษณาชุด "นามาฉะ นะมาชะ กรีนลาเต้" ครับ (อันนี้ไม่ต้องใช้ความรู้ด้านการสร้างสรรค์สื่อในการวิจารณ์)

ความน่ารำคาญนี่ไม่เกี่ยวกับข้อที่น่าสงสัยว่าทำไมถึงสะกดชื่อผลิตภัณฑ์แบบนั้น (เข้าใจว่าคงไม่เขียนตามเสียงอ่านว่า นามาฉะ แต่ทำไมถึงสะกดว่า นะมาชะ แทนที่จะเป็น นะมะชะ ถ้าจะถอดคำตามภาษาต้นแบบ?)

แต่นอกจากความน่ารำคาญโดยพื้นฐานที่ใครเห็นก็คงรู้สึกได้ (การทำหน้าบู้บี้แล้วพูดอะไรไม่รู้เรื่อง) ความไร้เหตุผลของแนวคิดของตัวโฆษณานี่ ผมว่าเกือบจะแย่กว่าด้วยซ้ำ

เพราะความหมายมันก็ตรงตัวอยู่แล้ว Namacha คือชื่อผลิตภัณฑ์ green แปลว่าเขียว latte แปลว่ากาแฟใส่นม

รวมกันก็เป็น นามาฉะ กาแฟเขียว ไม่เห็นมีอะไรน่างงตรงไหนแม้แต่น้อย (นอกจากชื่อผลิตภัณฑ์ ซึ่งถ้าอันนั้นเป็นปัญหาก็ไปเกิดใหม่เถอะ)

จะมา ชานามา เขียวแฟกา มาชานา แฟกาเขียว ฯลฯ ทำบ้าอะไร เพื่อ?

เลิกฉายไปนี่โล่งใจเวลาขึ้นรถไฟฟ้าขึ้นเยอะครับ (ไม่น่าแปลกใจที่ไม่มีใครคิดจะอัพโหลด)

ส่วนโฆษณาอีกชิ้นหนึ่งที่ผมรู้สึกขัดหูขัดตาเป็นพิเศษ คือโฆษณา "ทิปโก้ คูลฟิต" ชิ้นนี้ครับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=L8Tcge79cJE">Link</a>

ไม่แน่ใจว่าคนอื่นฟังแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง แต่ผมจะขออธิบายความรำคาญของผมดังนี้ครับ

ขอถอดจังหวะเพลงในโฆษณาให้ดูดังนี้ (โน้ตบรรทัดล่างไว้ให้เทียบนับจังหวะ)

อาจจะดูยุ่งเหยิงไปหน่อย แต่ประเด็นคือ สังเกตเนื้อหาของเพลงส่วนที่คล้ายกัน เช่น ช้อบชอบ ว่าตรงกับจังหวะที่ 7, 12, 20, 25 ตามลำดับ

ปัญหาก็คือไม่มีค่า a ใดที่ทำให้ (xia) มีค่าหารร่วมมากเป็นจำนวนเต็มที่มากกว่าหนึ่ง สำหรับ i∈{1,2,3,4} เมื่อ x คือหมายเลขจังหวะข้างต้น

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เมื่อพยายามแบ่งห้องให้กับโน้ตเพลงข้างต้นแล้ว จะพบว่ามันแบ่งไม่ลงตัว

ต้องมีห้องประหลาดที่มีจังหวะเกินมา ถึงจะทำให้เพลงลงพอดีห้องได้

ความจริงผมเองก็ไม่เคยได้เรียนทฤษฎีดนตรีมาแต่อย่างใด และก็ยังไม่มีโอกาสได้อ่าน This Is Your Brain on Music โดย Daniel J. Levitin (วันก่อนเห็น The World In Six Songs โดยผู้แต่งคนเดียวกันเพิ่งวางแผงที่ Kinokuniya) ก็ไม่ทราบว่าความเข้าใจของผมเหล่านี้จะถูกต้องแค่ไหน

แต่การที่องค์ประกอบของเพลงเพลงหนึ่งจะหารลงตัวได้นั้น ผมว่าสำคัญมากต่อความน่าพึงประสงค์ของเสียงที่จะเกิดขึ้นมา

ลองเปรียบเทียบ ช้อบชอบ ข้างต้น กับในเพลงนี้ของยุ้ย ญาติเยอะ ที่ถึงแม้ชื่อเพลงจะสะกดไม่เป็นภาษา แต่อย่างน้อยองค์ประกอบของเพลงก็หารลงตัว (สังเกตท่อนสร้อย ตั้งแต่ประมาณวินาทีที่ 60)

<a href="http://www.imeem.com/itums/music/qG9ObC1P/yui/">Link</a>

ฟังดูรื่นหูกว่าใช่ไหมครับ

อีกตัวอย่างหนึ่ง (ที่อาจจะไม่เกี่ยวเท่าไร แต่หาเรื่องโพสท์) คือ Potter Puppet Pals in "The Mysterious Ticking Noise" ที่ชนะเลิศ YouTube Awards 2007 ประเภท comedy ครับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Tx1XIm6q4r4">Link</a>

...

ความจริงแล้วโฆษณาทิปโก้ข้างต้น อย่างน้อยโครงสร้างของสามห้องแรกกับสามห้องหลังก็ตรงกัน อาจจะถือว่ายอมรับได้ในระดับหนึ่ง (หรือยอมรับได้? อย่างที่บอก ว่าไม่มีความรู้)

เพราะยังไงก็คงไม่กวนโสตประสาทได้เท่าริงโทนของ PCT รุ่นหนึ่ง ที่ฟังแล้วอยากจะตามไปฆ่าเสียบประจานทำร้ายคนแต่ง เพราะเอาทำนอง theme ของ the Pink Panther มาใส่จังหวะเกินเข้าไปจนฟังไม่ได้ดังนี้ครับ

[ภาพประกอบจะตามมาภายหลัง]

ความจริงแล้วน่าสงสัยนะครับ ว่าความสามารถในการรับรู้ความลงตัวของจังหวะเพลงที่ว่ามานี้ อาจจะมีปัจจัยทางพันธุกรรมเกี่ยวข้องอยู่ด้วย (นึกถึงข่าว Perfect Pitch May Be Genetic ที่เคยเห็นใน WebMD)

เพราะไม่อย่างนั้นจะมีคนแต่งริงโทนดังกล่าวออกมา หรือเจ้าของโทรศัพท์ที่ผมเคยได้ยินจะทนใช้อยู่ทุกวันได้อย่างไร

...

ก่อนจะจบ ขอย้อนกลับมาเรื่องโฆษณาอีกครั้งดีกว่าครับ

คือจะขอแปะภาพยนตร์โฆษณาที่ผมยังคงชอบเป็นอันดับต้น ๆ ชิ้นนี้

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=6UOEw88MQFU">Link</a>
Sharing โดย TA Orange ครับ

ซึ่งพูดถึง TA Orange แล้ว ก็โยงกลับมาหารถไฟฟ้า BTS ได้อีก...

คงจะจำได้นะครับ ว่าโฆษณาเปิดตัวของ Orange เป็นโฆษณาชุดแรกที่มีการโฆษณาบนรถไฟฟ้าแบบเต็มขบวนทั้งด้านในและด้านนอก ด้วยสโลแกน "The future's bright, the future's Orange." (ซึ่งปัจจุบันนี้ Orange ก็เลิกใช้ไปแล้ว)

ผมเองยังว่าเป็นโฆษณาที่เปิดตัวได้อย่างสวยงามโดยแท้ และหลาย ๆ คนก็คงจะยังจำภาพยนตร์โฆษณาที่กวาดรางวัล TACT Awards ปี 2002 ไปได้ถึง 5 รางวัลนั้นได้เป็นอย่างดี

ก็จะขอส่งท้ายเอ็นทรีนี้ด้วย Get Closer ครับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=luD8ibJFevA">Link</a>

*Note: Copyright of posted media are owned by their respective owners.

12 October 2006

บ้านใกล้สนามบิน?

อันนี้กะจะเขียนตั้งนานแล้ว แต่ไม่ได้พูดถึงสักที (สังเกตว่ารูปนี่ถ่ายจากโฆษณามาเป็นเดือนแล้ว)
อ่า... ดีกว่าเหรอ? ก็คงดีกว่ามั้ง ถ้าเป็นนักบิน หรือพนักงานต้อนรับ หรือ... สักอย่าง...

ไม่งั้นมันจะดียังไง? อ้อ ถ้าเป็นคนต้องเดินทางบ่อย ๆ นี่เอง

แต่ดูแล้วมันก็ยังเป็น niche ที่เล็กจนไม่น่าเอามาเป็นจุดขายเลย?

แล้วก็อย่างที่ตู้ (ศิวัช) บอก... มันแปลก ๆ นะ... ทำไมถึงเหมือนว่าคนจะอยากอยู่ใกล้สนามบินกัน ที่ใกล้สนามบินดันราคาขึ้น?

ดูอย่างใน SimCity 4 พื้นที่ desirability สำหรับ high-wealth residential ตรงสนามบินยังออกจะแดงซะ... (แต่ก็น้อยกว่าโรงบำบัดน้ำเสียอยู่มากน่ะแหละ)
(สังเกตเมืองสร้างแบบไม่มีการวางผังวางแผนอะไรทั้งสิ้น)

ที่จริงที่มาโพสท์นี่เพราะเมื่อวานซืนเปิดผ่านไปเจอถึงลูกถึงคนเรื่อง มลพิษทางเสียงจากสุวรรณภูมิ ก็สะท้อนอะไรแปลก ๆ ดี เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคนที่อยู่ใกล้จริง ๆ กับที่โฆษณาบ้าน

แต่ก็สงสัยอยู่ ว่าที่ดอนเมืองมันไม่มีปัญหาเหรอ ก็ตรงนั้นมันก็น่าจะมีบ้านคนอยู่เหมือนกัน?

(ที่จริงตอนแรกกะจะพูดถึง "ภาพถ่ายจากสถานที่จริง บรรยากาศจำลอง" ด้วย แต่ลืมไปแล้วว่าโฆษณาอันนี้รายละเอียดมันเป็นยังไง)