Showing posts with label The Web. Show all posts
Showing posts with label The Web. Show all posts

15 January 2021

15... 20 years of Wikipedia

เอ็นทรีนี้คัดลอกจากโพสต์เก่าในเฟซบุ๊กเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เมื่อวาระที่วิกิพีเดียครบรอบ 15 ปี ไหน ๆ ตอนนี้ครบ 20 ปีแล้ว ก็ขอเอามาแปะในบล็อกด้วยแล้วกัน

เรามีชีวิตอยู่ในโลกที่มีวิกิพีเดียมานานกว่าที่ไม่มีแล้ว นึกดูก็แปลกดี จำได้ว่า google เจอ Wikipedia ครั้งแรกเมื่อปี 2003 ตอนหาข้อมูลทำพรีเซนต์เรื่องวัฒนธรรมแคนาดาของ'จารย์ Jacobsen

ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องอะไรหรอกว่ามันเป็น open content ที่ใครก็ร่วมเขียนได้อะไรยังไง มารู้จักจริงจังก็ช่วงปี 2005–06 ที่กระแส Web 2.0 กำลังมาแรง ซึ่งวิกิพีเดียนี่น่าจะนับได้เลยว่าเป็นผลิตผลของ Web 2.0 ที่ revolutionary ที่สุด

แต่ก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง ใน 15 ปีที่ผ่านมานี้ พอจะเห็นได้ว่า 5 ปีแรกเป็นช่วงของการตั้งต้นเงียบ ๆ 5 ปีถัดมาเป็นการเติบโตพุ่งพรวดอย่างรวดเร็ว และ 5 ปีหลังนี้เริ่มนิ่งและอยู่ตัว แต่ในขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ว่าพลังงานและพลวัตของผู้ร่วมเขียนเว็บไซต์มันเริ่มแผ่วลงมานานแล้ว เราเองก็คงได้แต่สงสัยว่าในอนาคต เราจะยังมีแหล่งความรู้ของมวลมนุษยชาติที่กว้างขวางและเข้าถึงได้ง่ายอย่างวิกิพีเดียอยู่อีกหรือไม่ แต่ที่รู้แน่ชัดคือวิกิพีเดียได้ปฏิวัติการเข้าถึงข้อมูลและความรู้ของเราไปแล้วตลอดกาล

16 October 2008

เอาอีกแล้ว... Mandate for the Internet Censorship Task force

Blognone (PaePae): ไอซีทีบล็อกบทความ "Bhumibol Adulyadej" บนวิกิพีเดียภาษาอังกฤษ?

FACT นี่ก็ไม่ไหว... ไม่ทันข่าวอะไรกับเค้าบ้างเลย

ใครที่ไม่ได้ใช้เน็ต true หรือ จุฬาฯ หรือนนทรี ฯลฯ อาจมีปัญหาในการเข้าถึงประสบการณ์ดังกล่าว

แล้วไอ้หน้าปัญญาอ่อน นี่จะมีไว้ทำไม? มีหน้าจะเซ็นเซอร์ก็ redirect เข้าดวงตาพญามาร (ทำใจลิงก์ไป th.uncyc ไม่ได้) ให้รู้แล้วรู้รอดไปสิ

ประเทศนี้...

เลิก ๆ ๆ

เลิก true

เลิกเน็ตจุฬาฯ (ยังรอว่าเมื่อไรจะเจอหน่วยงานอื่นของจุฬาฯ ทำงานห่วยกว่าสำนักไอที (ความจริงก็เวอร์ไป หลายหน่วยงานก็ห่วยพอกันทั้งนั้น))

เลิกประเทศไทย ไม่ไหวมั้ง ทำไจไปก่อนเหอะ

แม่ง...

(บรรทัดข้างบนมีความจำเป็นต้องไม่แก้เพื่อให้เข้าใจอารมณ์ของผู้เขียน)

อย่าให้ต้องเขียนเรื่องหมิ่นฯ นะ...

เรื่องกระทรวงที่ริอาจคิดอยากจะสร้าง Great Firewall แต่ทำได้เผาเค้กวันเกิด (ทำใจ quote th.uncyc ไม่ได้อีกเหมือนกัน) นี่อีก...

ห่วยฉิบ

เอาเถอะ ผมจะช่วยบอกให้: พวกคุณลืมบล็อค The King Never Smiles ที่ Google Books น่ะ

เอาสิ ผมให้ลิงก์ตรงเลย แน่จริงก็บล็อคบล็อกผมสิ

จะได้รู้ว่าไม่มีอะไรสร้างสรรค์ทำแล้วจริง ๆ

เสียเวลาคนต้องอ่านหนังสือสอบ...


  • Wikipedia (วิกิพีเดีย) is a multilingual, Web-based, free content encyclopedia project (แปล: โครงการสารานุกรมออนไลน์หลายภาษาที่ไม่จำกัดสิทธิในการใช้งาน ทำซ้ำ ดัดแปลง หรือแก้ไข) และเป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการเข้าชมมากเป็นอันดับ 7 (สถิติจาก Alexa) ทั่วโลก
  • หนึ่งในเสาหลักห้าประการของวิกิพีเดียคือ "neutral point of view" หรือมุมมองที่เป็นกลาง และมีนโยบายที่เคร่งครัดเกี่ยวกับ Biographies of living persons ซึ่งหมายความว่าการโจมตี ให้ร้าย หรือกล่าวถึงบุคคลในทางที่หมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นประมาทนั้น จะทำไม่ได้ ไม่เป็นที่ยอมรับเด็ดขาด
  • ลักษณะเด่นของวิกิพีเดียคือผู้อ่านทุกคน (รวมถึงเจ้าหน้าที่กระทรวงทำลายล้าง... (oops) MICT) สามารถแก้ไขได้ โดยเฉพาะถ้าเห็นว่ามีเนื้อหาที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่เหมาะสม ซึ่งการดูแลให้เนื้อหาของวิกิพีเดียมีความเป็นกลางข้างต้น ก็ขึ้นกับทุกคน (รวมถึงเจ้าหน้าที่ MICT) ที่มีสิทธิ์ร่วมแก้ไข
  • บทความ Bhumibol Adulyadej ได้รับเลือกเป็น featured article หรือบทความคัดสรร บนวิกิพีเดียภาษาอังกฤษ หมายความว่าได้ผ่านการกลั่นกรองและพิจารณาจากประชาคมแล้วแล้วว่าเป็นบทความคุณภาพที่มีความถูกต้อง สมบูรณ์ ครบถ้วน และเป็นกลาง ซึ่งถึงจะพูดตรง ๆ ตามความเห็นของผมว่าหลังจากที่ได้รับเลือกแล้วหลายส่วนของบทความก็ลงเหวมาเรื่อย ๆ ก็ยังยากที่จะเข้าใจว่า...
  • ทำไม MICT ถึงเลือกที่จะปิดกั้นสายตาคนไทยไม่ให้สามารถเข้าไปแก้ไขสิ่งที่เป็นเท็จหรือไม่เหมาะสม (ถ้ามี) แต่กลับทิ้งไว้ให้ชาวโลกได้รับรู้ โดยไม่คิดที่จะปรับปรุง? (หรือว่าจะเป็นเพราะความถูกต้อง สมบูรณ์ ครบถ้วน และเป็นกลาง อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ MICT (และคนไทย??? ← เอาอะไรมาบังคับความคิดของคนไทยทั้งประเทศ?) ต้องการ?)
  • ไม่แน่ใจว่าเป็นครั้งแรกหรือเปล่าที่ MICT จงใจบล็อคเว็บไซต์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาโดยเฉพาะ ซึ่งน่าสนใจทีเดียวเมื่อพิจารณาข่าว เด็กฮิตท่องเน็ตดู"คลิปหลุด" - 86% เล่นเกม - แค่ 14% ศึกษา ที่ลงในหนังสือพิมพ์มติชนเมื่อวานนี้ และรายงานการแถลงข่าวของปลัดกระทรวงศึกษาธิการตอนหนึ่งว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่เด็กและเยาวชนไทยใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อความบันเทิง เพราะสื่อการเรียนรู้ในอินเตอร์เน็ตมีไม่เพียงพอ และไม่มีทางเลือกที่หลากหลาย

เฮ้อ...ประเทศไทย

24 May 2008

เริ่มต้นกับ RSS

ครับ... ครั้งนี้ก็จะมาตอบคำถามเพื่อน ๆ ทั้งหลายนะครับ ที่ว่า RSS คืออะไร ไอ้ไอคอนส้ม ๆ นี่มันแปลว่าไง จะ subscribe feed ยังไง...

ความจริงไม่มีใครสงสัยตามคำถามที่ว่ามาข้างต้นเลยสักคน

แต่ก็เป็นเรื่องเดียวกับที่มีคนอยากรู้อยู่ครับ ว่า "เราอยากจะติดตามอ่านบล็อกคุณพอเหมือนกันนะ แต่จะมาโพสท์เมื่อไรบ้างก็ไม่รู้ถี่บ้างห่างบ้าง ใครจะมาคอยนั่งเช็คได้ทุกวี่ทุกวัน (ทำไมไม่ใช้ Windows Live Spaces อย่างน้อยมันก็มีดาวเหลือง ๆ ขึ้นบอก)"

คำตอบก็คือ ใช้ web feeds ครับ

ความจริงถ้าผมขี้เกียจ ก็จะแค่ให้ลิงก์ไปบทความ Wikipedia เรื่อง web feed แล้วให้ไปอ่านเอาเอง แต่รู้อยู่ว่าท่านผู้อ่านที่จะได้ประโยชน์จากการตอบคำถามนี้คงไม่อยากตามไปอ่านหรือค้นเองต่อ ก็จะมาเล่าให้ฟังคร่าว ๆ ครับ

ในตัวอย่างต่อไปนี้ จะใช้ Internet Explorer 7 เป็นตัวอย่างในการนำเสนอครับ ทั้งนี้นอกจาก IE7 จะมี [feature] ในการเป็น feed reader แล้ว ยังเป็น browser ที่มีการพัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า (IE6) อย่างมาก ไม่ว่าจะในเรื่องของความปลอดภัย ความสามารถต่าง ๆ และที่สำคัญอย่างยิ่งคือการให้การรองรับมาตรฐานเว็บที่ดีขึ้นจาก IE6 มาก (ถึงแม้จะยังตามหลัง web browsers ยี่ห้ออื่นอยู่) จึงอยากจะฝากไปยังท่านผู้อ่านที่ยังใช้ IE6 อยู่ว่า อย่างน้อยก็อัพเกรดเป็น IE7 เถอะครับ เพื่อความเป็นสุขของนักพัฒนาเว็บไซต์ทั่วโลก

ครับ ลองมาดูกัน...

ก็อย่างที่พูดถึงตอนต้นนะครับ ไอคอนสีส้ม ๆ ที่ว่านี่ก็เป็นสัญลักษณ์แสดงว่าเว็บเพจที่กำลังอ่านอยู่นั้นมี feed คือมีไฟล์ไฟล์นึงที่มันจะคอยอัพเดทเวลาที่มีการโพสท์อะไรใหม่เข้ามา ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำก็คือ subscribe to feed อันนั้นไว้ เพื่อที่โปรแกรมที่ใช้ subscribe (คือ feed reader หรือ aggregator) จะได้บอกเราเวลาที่มีการอัพเดทอะไรใหม่

ซึ่งคลิกดูแล้วมันก็จะบอกว่ามีไฟล์อยู่สองแบบ คือ RSS กับ Atom ก็จะไม่ขอพูดถึงรายละเอียดนะครับ (เพราะผมเองก็ไม่รู้เรื่อง) ที่บอกว่าเริ่มต้นกับ RSS ในหัวข้อโพสท์ก็แค่คิดว่าเป็นตัวย่อที่อาจจะเคยได้ยินกันแค่นั้นเอง

หรือถ้าใครหาไอคอนสีส้ม ๆ อันนั้นไม่เจอ ก็ลองหาลิงก์ดูที่ด้านล่าง (หรือที่ไหนสักแห่ง) ของหน้านั้นนะครับ (บางเว็บอาจจะมีตัวอักษร RSS หรือ XML บนพื้นสี่เหลี่ยมสีส้ม)

ครับ นี่ก็คือหน้าตาของ feed ตามที่เห็นใน IE7 ครับ จะเห็นว่ามันก็คือข้อความของบล็อกแต่ละเอ็นทรีเรียงต่อ ๆ กันให้เห็น

สิ่งที่เราจะทำก็คือ subscribe to this feed ครับ

ตั้งชื่อ กำหนดที่ไว้ได้ตามใจชอบ

ก็เป็นอันเรียบร้อยครับ คราวนี้เวลาเราเปิดดูเมนู subscribed feeds (Ctrl+J) ก็จะเห็นหัวข้อ feeds ทั้งหมดที่ subscribe ไว้ (พอดีเราเพิ่ง subscribe ไป feed เดียว)

เมื่อไรที่มีการอัพเดท หัวข้อ feed นั้นก็จะขึ้นเป็นตัวหนาครับ

เราก็คลิกเข้าไปอ่าน feed นั้นได้ตามที่ subscribe ไว้ ตรงนี้ก็จะเลือกได้ว่าจะเปิดดูเฉพาะที่อัพเดทใหม่ หรือเลือกดูทั้งหมด ฯลฯ และคลิกที่หัวข้อเพื่อไปดูตัวจริงเสียงจริงที่หน้าเว็บเพจนั้นได้ครับ

สำหรับ IE7 ก็แค่นี้เอง จบ!

ซึ่งนอกจาก IE7 ที่ยกตัวอย่างมาแล้ว ก็ยังมี feed reader ให้เลือกใช้บริการได้อีกมากมายครับ ทั้งที่เป็น client software เดี่ยว ๆ หรือที่เป็น web-based เช่น Bloglines หรือ Google Reader ซึ่งแต่ละโปรแกรมแต่ละยี่ห้อก็มีคุณสมบัติหลากหลายแตกต่างกันไป ก็เลือกใช้ได้ตามความพอใจครับ

ง่าย ๆ แค่นี้เอง เห็นไหมครับ เพราะฉะนั้น คราวหน้าห้ามอ้างแล้วนะครับ ว่าไม่รู้จักวิธี subscribe เพื่อให้ติดตามอ่าน blog ของเพื่อน ๆ ทั้งหลายแหล่ได้

3 June 2007

Google search ภาษาไทยได้แล้ว?!

กรี๊ด~ ไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมเนี่ย ตั้งแต่เมื่อไร... ไม่ทันสังเกต

ป.ล. ดูเหมือนว่าจะสองสัปดาห์มาแล้ว - -'

4 May 2007

Facebook wins | Italia 2007

เอาล่ะ... จากที่คราวที่แล้วว่าจะไม่อัพรูป แต่ด้วยความเห็นแก่คนที่มาคะยั้นคะยอ (เวอร์ ความจริงมีคนบอกอยู่สองคน) ก็เลยอัพโหลดไว้ที่ Facebook นะครับ (เล่าเรื่องที่พูดถึงอยู่ในโพสท์ที่แล้วหน่อยก็ได้ ก็คือ เราคิดอยู่ว่าจะอัพโหลดรูปที่ไหนดี ที่่จะไม่ได้ต้องการโฆษณาให้โลกได้รับรู้ ซึ่งมันก็ไม่ลงตัวสักอย่าง เพราะไม่ว่าจะเลือกที่ไหน ก็ต้องให้คนที่จะดูสมัครสมาชิกแล้ว verify ความเป็นคนรู้จักอีกหลายขั้นตอน จะใช้ที่นี่ ซึ่งอนุญาตตาม messenger allow list ได้ ก็ไม่โออีก เพราะบล็อกไม่ได้เขียนแบบส่วนตัว แล้ว allow list ก็มีใครไม่รู้เต็มไปหมดอยู่ดี) คนที่ไม่มี account และขี้เกียจสมัครก็ติดต่อถามมาโดยตรงได้นะครับ ยังสามารถเข้าดูได้อยู่...

ไหน ๆ ก็แล้ว เล่าถึงที่ไปเที่ยวมาย้อนหลังสักนิดนึงละกัน...

  • แพง มาก
  • ไปเที่ยวแบบ educational สุด ๆ เข้าพิพิธภัณฑ์จน lost track ว่าเข้าไปกี่แห่ง
    (ความจริงก็ไม่ขนาดนั้นหรอก มีตั๋วอย่างอื่นปนมาด้วยนิดหน่อย)
  • เอากระเป๋าตังก์เปล่าไปหลอกคนล้วงกระเป๋าตั้งเยอะ ไม่ขโมยไปสักใบ
  • Graffiti เต็มเมือง... ไม่น่าดูน่าอยู่เลย โดยเฉพาะโรม ขึ้นรถไฟบางขบวนนี่มองออกไปข้างนอกไม่เห็น เพราะพ่นหมด
  • Raffaello สุดยอด...
  • คนอิตาลีนี่ไม่ง้อนักท่องเที่ยวเลยสักกะติ๊ด คงรู้ดีว่ายังไงคนก็แห่กันมา
  • ไปร้านไอศกรีมที่เขาว่าอร่อยที่สุดในโลกมาด้วยนะ
  • นั่งเครื่องบินกลับ ท้องฟ้ายามรุ่งอรุณสวยสุด ๆ

20 April 2007

Web 2.0: Neither personal nor private

แจ้งให้ทราบก่อนว่ากลับมาตั้งแต่เช้าวันจันทร์ที่ผ่านมาแล้ว...................

นั่งคิดไปพิมพ์มาครึ่งชั่วโมง ปรากฏว่าขัดแย้งในตัวเองอีกแล้ว เรื่องที่จะบ่นนั้นเป็นอันตกไป

แต่แก่นประเด็นหลักก็ยังจริงอยู่แหละ ว่าแนวโน้มของ Web 2.0 ที่จะให้ share & connect อย่างไร้ขอบเขตมากขึ้นเรื่อย ๆ นั้น ทำให้พื้นที่สำหรับคนที่อยากใช้บริการออนไลน์เหล่านี้โดยจำกัดอยู่ในกรอบแคบ ๆ แบบเดิมนั้นน้อยลงเรื่อย ๆ

(ความจริงเนื้อหาที่พิมพ์ไปตอนแรกมีอธิบายด้วย ว่าทำไมถึงไม่ได้อัพโหลดรูปที่ไปเที่ยว เอาเป็นสรุปว่า ไม่รู้จะอัพที่ไหนดีก็เลยเปลี่ยนใจไม่อัพมันแล้ว)

2 January 2007

สำนักพระราชวังใช้ Creative Commons!

ไม่ถึงกับไม่น่าเชื่อหรอกครับ แต่ยอมรับว่าแปลกใจจริง ๆ...
http://palaces.thai.net/king60B/#Footer