30 December 2005
December 30 1:49 PM
อย่าว่าแต่ประชาชนเลย ดูรัฐมนตรีซะก่อนเถอะ...
ช่างน่าอนาถใจ...
26 December 2005
26 December: Lest we forget
for life must go on.
Don't forget those who loved and were loved,
for in our memories they shall rest.
Don't pretend nothing happened that shattered our lives,
for lessons there are to be learnt.
Don't just let pass into history these events of 2004,
for they are a reminder of who we really are.
In rememberance of those who lost their lives in the 26 December 2004 tsunami, and those who reminded us that life is worth struggling for.
15 December 2005
อ๊ะ... (2)
ว้าว ๆ ได้แล้ว ๆ รอแค่ครึ่งปีกว่าเอง...
(นี่แล้วจะเปลี่ยนที่อยู่กลับได้หรือเปล่าเนี่ย?)
14 December 2005
December 14 6:17 PM
ที่ทำไม่ได้ไม่ใช่เพราะอะไร... เพราะกลัวจะกระทบคนอ่าน
ก็เป็นงั้นไป...
12 December 2005
Life drains from us like water in cupped hands.
3 December 2005
Evidence-based thinking | Plagiarism
เมื่อวานนี้ตอนต้นชั่วโมง Ethics อาจารย์สมเกียรติมาพูดเกี่ยวกับการนำเสนองาน มีส่วนหนึ่งที่พูดถึงการเป็น evidence-based
ที่จริง evidence-based medicine ผมเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะปลูกฝังให้นิสิตแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะกว่าที่จะได้เรียนเอาตอนปีสามมันค่อนข้างสายที่จะปรับเปลี่ยนทัศนคติและกระบวนการคิด ความจริงที่อาจารย์สมเกียรติพูดมาแล้ว 2-3 ครั้งผมยังคิดว่าไม่ได้นำเสนอในมุมมองที่สะท้อนให้เห็นความสำคัญเพียงพอ และอาจยังไม่เข้าถึงนิสิตได้จริง ๆ
ถ้าจะให้ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็อย่างเรื่องน้ำดื่ม reverse osmosis นั่นแหละครับ...
แต่เรื่องที่อยากจะพูดถึงมานานแล้วเหมือนกัน ที่อาจารย์พูดถึงนิดหนึ่ง คือ plagiarism
pla·gia·rize
v. pla·gia·rized, pla·gia·riz·ing, pla·gia·riz·es
v. tr.v. intr.
- To use and pass off (the ideas or writings of another) as one's own.
- To appropriate for use as one's own passages or ideas from (another).
To put forth as original to oneself the ideas or words of another.Source: The American Heritage® Dictionary of the English Language, Fourth Edition
Copyright © 2000 by Houghton Mifflin Company.
Published by Houghton Mifflin Company. All rights reserved.
- Provided by Reference.com
ประเด็นที่อาจารย์พูดถึงเรื่องนี้จริง ๆ ก็มีอยู่ไม่มาก (คือตรงที่ว่าเวลาที่หาข้อมูลมาแล้วต้องสรุปความเรียบเรียงให้เหมาะสม ไม่ใช่ copy มาทั้งดุ้นโดยบางทีก็ยังไม่ได้อ่าน) แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถูกมองข้ามความสำคัญไปมากในสังคมการศึกษาของเราในปัจจุบัน
เวลาที่ทำงานร่วมกับเพื่อน ๆ บางครั้งผมเองก็ค่อนข้างอึดอัดใจที่เพื่อนทำงานโดย copy มาจากแหล่งบนอินเทอร์เน็ตทั้งดุ้นแบบที่อยากจะหา reference แล้ว Google หาเอาได้เลยว่ามาจากที่ไหน ผมคงว่าเพื่อนที่ทำแบบนั้นไม่ได้ แต่คงต้องโทษระบบการศึกษาและลักษณะสังคมของเราที่ไม่ให้ความสำคัญกับทรัพย์สินทางปัญญาเท่าที่ควร และไม่ได้สอนให้เข้าใจถึงแก่นแท้ของการทำงานเช่นนี้ (เวลาทำรายงาน เราพยายามที่จะรวบรวมข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งแล้วทำความเข้าใจ วิเคราะห์ สังเคราะห์ แล้วเรียบเรียงด้วยถ้อยคำของเราเอง หรือ copy ข้อมูลมาแปะให้รายงานหนาที่สุดเท่าที่จะทำได้มากกว่ากัน?)
ผมก็เคยทำแบบข้อต้นบ่อย ๆ แต่พอได้อ่านบทความโดย Paul D. Rosevear ถึงเริ่มตระหนักได้ว่านิสัยการทำงานอย่างที่เราทำกันบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเพื่อทำให้งานนั้นเสร็จ ๆ ไปหรือเพราะไม่รู้ว่าวิธีที่เหมาะสมเป็นอย่างไร เป็นเพียงสิ่งที่ถูกปลูกฝังมาจากความผิดพลาดของระบบการศึกษาที่มองข้ามแก่นของกระบวนการเรียนรู้ตรงนี้ไป
อย่างไรก็ตาม เฉพาะตัวเอง ถ้ารู้แล้ว เราคงไม่ทำสิ่งที่ไม่ถูกต่อ เพียงเพราะมันง่ายกว่า... ใช่ไหม?
- From For Better or for Worse by Lynn Johnston.
1 December 2005
World AIDS Day 2005: Stop AIDS. Keep the Promise.
With calls to keep the promise, maybe it was time we asked ourselves...
"When was the last time we knew we cared?"
Once a year, we don red ribbons and talk of the actions we need to take.
But why then, 364 days a year, do we so easily seem to forget?
We talk about acceptance, we talk about sympathy.
But why then, do we shun AIDS sufferers every day in our lives?
Where's the promise?
We can make a difference.