เมื่อวานนี้วันที่ 16 มกราคม เป็นวันครู
ด้วยความที่สบโอกาสว่าวันพุธบ่ายว่าง (วอร์ดเดียวในปีสี่ที่มีครึ่งวันว่าง) ก็เลยแวะ (ที่จริงเดินทางไปไกลพอควร) ไปสวัสดีอาจารย์ที่โรงเรียน
พอดีว่ากลับมาแล้วยังอาการหนักไม่หายเลย (ตาม post title) ก็เลยขอหาที่ระบายแบ่งให้คนอื่นรับรู้บ้างเถอะ... (ที่จริงเมื่อวานคิดจะเขียนแล้วเหมือนกันแต่ความคิดมันซับซ้อนวกวนไปหมด วันนี้ก็คงไม่ได้ต่าง ถ้าอ่านไม่รู้เรื่องก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย)
ความจริงบอกมาเท่านี้ก็น่าจะพอ [imply] ได้ว่าหมายถึงโรงเรียนอะไร ด้วยข้อมูลที่ว่า 1. ไม่หยุดวันครู และ 2. ต้องเดินทางไปไกลพอควร
(แต่นอกจากนั้นแล้ว ถ้าเคยสังเกตดู... ปกติถ้าพูดถึงโรงเรียนเตรียมฯ เราก็จะเรียกว่า "โรงเรียนเตรียมฯ" ส่วน "โรงเรียน" เฉย ๆ จะเก็บไว้เรียกสาธิตเกษตร... ก็เป็นไปตามลำดับก่อน-หลัง แต่เริ่มเข้าอีกประเด็นแล้ว ไว้พูดถึงต่อด้านล่างแล้วกัน)
อันที่จริงที่ว่าไปเยี่ยมอาจารย์ก็เหมือนจะเป็นเพียงข้ออ้างส่วนหนึ่งที่จะกลับไปเยี่ยมโรงเรียนด้วย
ก็ตั้งเกือบ 3 ปีแล้ว ที่ไม่ได้ผ่านไปทางนั้นเลย...
คงเพราะว่าเราเองก็ [sentimental] เวอร์ ด้วยส่วนหนึ่ง แต่การกลับไปโรงเรียนนี่นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ [emotional] สุด ๆ แทบทุกครั้ง
ไปคุยกับอาจารย์หลาย ๆ ท่านถึงเพิ่งนึกได้ ว่านี่มันเกือบ 7 ปีมาแล้วที่จากมา...
7 ปี!!
มองไปรอบ ๆ ตัว เวลา 7 ปีที่ว่านั้นเหมือน rewind กลับไปถึงในพริบตาเดียว... นึกไม่ถึง... นึกไม่ถึงเลย...
ไม่อยากลืม...
ไม่อยากลืม...
ที่จริงวันเสาร์ที่แล้วไม่ได้ไปงานเลี้ยงรุ่น... ก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปตั้งแต่แรกแล้ว คือเรากลัวด้วยส่วนหนึ่ง... กลัวว่าไปเจอเพื่อน ๆ แล้วจะช็อก จะตกใจกับเวลาที่ผ่าน กับความจริงที่เปลี่ยนไป...
รู้อยู่ ว่ามีอีกมากมายที่ต้องเรียนรู้... ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบัน... ที่จะทำความเข้าใจการไหลผ่านของเวลา...
เวลา...
เวลานี่เอง ที่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่างเข้าใจ ช่างยอมรับได้ยากที่สุด...
ไปโรงเรียนครั้งนี้... หลายอย่างที่เห็นก็เป็นภาพเดิม ๆ ที่คุ้นตา... แต่เบื้องลึกใต้นั้นแล้วทุกอย่างเปลี่ยนไป...
น่าเสียดายที่ไม่พบอ.อัชฌา... ก็ทราบมาว่าอาจารย์เกษียณอายุราชการไปแล้ว เลยไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอ แต่พอรู้ว่าอาจารย์ยังมาทำงานอยู่ แต่มาไม่ทันพบอาจารย์ ก็เลยว่าน่าเสียดายขึ้นมาอีก...
อาจารย์หลาย ๆ ท่านเล่าให้ฟัง ถึงสังคมและยุคสมัยที่เปลี่ยนไป... นั่นสินะ... เกือบ 10 ปีแล้ว... 10 ปี อาจจะเร็วจนประวัติศาสตร์มองไม่เห็น แต่เมื่อเทียบกับชีวิตสั้น ๆ ของคนหนึ่งคน ก็แทบไม่น่าเชื่อเลย ว่าอะไร ๆ จะเปลี่ยนไปเร็วเท่านี้...
ไปนี่ก็ถูก อ.พรรัตน์ ลากเข้าไปคุยกับน้อง ๆ ม.3/7 (ที่จริงจะบอกอาจารย์ว่าขอไม่รบกวนเวลาการสอน - -')... มีน้องจำเราจาก Fun Camp ได้ด้วย~
โอ... ซึ้ง...
(ที่จริงแวะไปดูน้อง ๆ รับสมัคร Fun Camp ตรงลานเงิน... มีน้องทักด้วยอีกนั่น... แต่ก็จำไม่ได้อยู่ดี~ ก็เป็นอย่างนี้ซะทุกที... เฮ่อ)
อีกอย่าง ก็เพิ่งสังเกตตัวเองเหมือนกัน ว่าไปอยู่ รร.เตรียมฯ แล้วนอบน้อม เกรงใจอาจารย์ขึ้นเยอะ...
อันที่จริง... ก็รู้สึกอยู่บ่อยครั้ง ว่าเวลา 9 ปีกับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนแห่งนี้ มันยังขาดอะไรไปเยอะ...
เหมือนเรื่องที่ติดตามอ่าน ติดตามดู มาตั้งแต่ต้น แต่เลิกไปเสียก่อนจะถึง climax...
ค่าย ม.4 - กีฬาสี - สาธิตสามัคคี ก็คงเป็นสิ่งที่เรา [would never] ได้พบ... ก็ยอมรับว่าเสียดายอยู่...
แต่ไม่เสียใจนะ กับทางที่เลือกเดินมา
อีกหลากหลายประสบการณ์ เพื่อน ๆ อีกหลายคน ที่เราคงไม่มีวันได้พบถ้าไม่ได้มา รร.เตรียมฯ ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะตัดทิ้งไปได้จากชีวิต
เคยมีหลายคนถาม ว่ารัก ผูกพัน กับโรงเรียนไหนมากกว่ากัน
(เราน่ะหรือก็บ้าสถาบันมิใช่น้อยอยู่...)
ก็ตอบไปทุกครั้งว่ามันไม่เหมือนกัน
ตลอดสามปีที่เตรียมฯ ความภูมิใจอย่างหนึ่งของเราคือการกลัดเข็มพระเกี้ยวองค์จริงที่ได้รับจากอาจารย์ในพิธีประดับพระเกี้ยว มาบนอกเสื้อนักเรียนด้านขวาทุกวัน โดยไม่เคยทำหาย หรือต้องเช่าพระเกี้ยวสำรองเลย
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน คือทุกวันที่ติดเข็มพระเกี้ยวอยู่นั้น เรามีเข็มพระพิรุณทรงนาคอยู่ข้างใจ ในกระเป๋าเสื้อนักเรียนเสมอ...
(บอกแล้วไหมล่ะว่าไอ้นี่มันบ้าสถาบัน~)
และตั้งแต่วันที่ก้าวออกจากรั้วโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เสียงเพลงสาธิตเกษตรที่รัก ก็ก้องอยู่ในใจเสมอมา...
สาธิตเกษตร แหล่งความรักความภูมิใจ แม้ห่างไกลจะไม่ลืมพระคุณเอย