ที่สุดก็ดองข้ามปีจนได้
เกือบจะโพสท์ได้ครบทุกเดือนอยู่แล้วเชียว
เอาเถอะ ไหน ๆ ก็เข็น (อย่างยากลำบาก) จนเครื่องติดแล้ว เรากลับสู่โหมดปกติ (ของบล็อก) กันดีกว่า...
ไล่ย้อนหลังเป็นเรื่อง ๆ ไปเลยแล้วกัน
Happy New Year 2009!
กะจะตั้งริงโทนเพลงพรปีใหม่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ทำ... (แต่ก็ดีแล้ว เพราะแทบไม่มีโทรศัพท์เข้าเลย)
26 December 2008
ขอไม่พูดถึงเรื่องสอบ (ไม่เคยพัฒนา)
ด้วยว่าครั้งนี้สอบช่วงเช้า เลยเหลือว่างอีกครึ่งวัน ครั้นจะกลับบ้านเลยก็รู้สึกใช่ที่ชอบกล แต่แล้วก็ไม่มีที่ไปอยู่ดี
เลยแกร่ว ๆ ดูพวก rotate 4 ถ่ายรูปกันอยู่พักใหญ่ จนกุ้ง-ยุทธนา ชวนเป็นเพื่อนเดินไปเอาเค้กที่สีลม ก็เลยออกมา... แต่ไป ๆ มา ๆ คุณกุ้งเกิดต้องไปตามหากระเป๋าพยาบาลที่ยืมไปเยี่ยมบ้านสัปดาห์ก่อน ก็เลยยังไม่ได้ไปเอาเค้ก ไอ้เราก็... เมื่อกี้คุยเรื่องเห็นป้ายว่า LoFt มาเปิดที่จามจุรีสแควร์ ก็เลย... ไปก็ไปวะ (สอบเสร็จคราวก่อนก็ไปสำรวจจามสแควร์ อะไรมันจะสิ้นคิดขนาดนี้)
ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินไป (ช่างไม่คุ้มเสียนี่กระไร แต่มาโผล่ฝั่ง ถ.ราชดำริแล้ว ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดนอกจากเดิน) ก็ไปขึ้นลงบันไดเลื่อนสำรวจ ๆ อีกรอบ ก็เจอว่านอกจาก LoFt แล้ว...
มี Daiso มาเปิดด้วยแฮะ
(ส่วน LoFt ไม่ยอมให้ถ่ายรูป)
LoFt ก็... ขนาดร้านใหญ่ปานกลางอยู่ สัก 3 unit ได้มั้ง (ตอบละนะ) ส่วน Daiso นี่ เดินเข้าไปนี่ต้องคอยระวังกระเป๋ากลัวจะเกี่ยวอะไรร่วงกราวลงมา
(พูดถึงกระเป๋านี่... วันนี้แบกชีทไปด้วย ก็ไม่ได้เยอะแต่ว่าหิ้วไปหิ้วมาทั้งวัน เลยชักสงสัยว่าพวกผู้หญิงเค้าทนแบกบ้านใส่กระเป๋า Harrods (ปลอม) หิ้วไปมาทุกวันได้ยังไงกัน)
ขึ้นไปศูนย์หนังสือจุฬาฯ เห็น gift set ผ้าขนหนูหรรษา น่ารักดี (แต่ไม่กล้าถ่ายรูป หลังจากเผชิญหน้ากับพนักงาน LoFt มา)
แล้วก็เจอว่าเสื้องานบอลออกแล้ว (อบจ. นี่... แต่ละปีจะทำงานต่อเนื่องกันสักนิดไม่ได้เลยรึไง เว็บเกือบ ๆ จะดีเมื่อไรก็เริ่มใหม่เมื่อนั้น คนจะดูนี่ต้องควานหาใหม่ตลอด) ก็เลยได้จุดหมายไปศาลาพระเกี้ยวต่อ...
เดินต๊อก ๆ ทะลุผ่านซอยข้างคณะบัญชี (หน้าตึกมหิตลาธิเบศร์ ซึ่งตอนแรกชื่อตึกนวัตวิทยาการ) อ๊ะ มีตลาดนัดด้วยแฮะ (เฉียด ๆ เข้าไปดูหน่อย แต่ก็ไม่เคยซื้ออะไร)
เสื้องานบอลปีนี้มีแบบเดียว (ไม่แยกชาย-หญิง) และบอกขนาดเป็นนิ้วครับ
ถูกใจมากมาย... ทำไมไม่ใช้ระบบนี้เป็นมาตรฐานให้หมดนะ จะได้ตัดปัญหาความ [arbitrary] ของขนาดเสื้อที่ช่างเป็นปัญหาตลอดกาลไปได้ซะ
(ตอนที่ไปซื้อนี่ไซส์ 40 กับ 44 หมด ไม่งั้นก็อาจจะพะวงเลือกอยู่อีกนานอยู่ดี)
เรื่องปัญหาขนาดเสื้อนี่เห็นสด ๆ ล่าสุดก็เรื่องเสื้อ extern นี่แหละครับ
แต่อันนี้ปัญหาหลักเกิดจากเสื้อที่ลองกับเสื้อที่ได้จริงขนาดไม่ตรงกันเสียมากกว่า
ขำดี... วันที่ 27 พ.ย. เป็นเทศกาลวิตกจริตหมู่ ไปนั่งยืนดูเพื่อน ๆ ลองเสื้อแล้วลองอีก (เชื่อได้ว่าปุริมลองเปลี่ยนไปเปลี่ยนมากว่า 20 รอบ)
(ที่จริงผู้เขียนก็ไม่ได้น้อยหน้าเท่าไร... หลังจากสั่งไปแล้วโดน psycho ก็ไปวิ่งเต้นขอแก้ เสร็จแล้วก็แก้กลับอีก)
แต่เอาเถอะ ประเด็นก็คือถ้าบอกขนาดเสื้อเป็นตัวเลขตั้งแต่ต้น ก็ไม่ต้องมาตั้งชื่อขนาดให้ผิดไปจากความเป็นจริงเพื่อเพิ่มความมั่นใจของผู้ซื้อให้วุ่นวายอีก (ทำไมเสื้อผู้หญิงถึงมี SSS ถึง M ขณะที่เสื้อผู้ชายมีขนาด S ถึง XXL? เพราะผู้หญิงอยากได้ชื่อว่าตัวเล็กส่วนผู้ชายไม่อยากหรือเปล่า)
...
ได้เสื้อแล้วก็ขึ้นรถป๊อพไปสยาม... (ไม่มีทางอื่นไป เพราะไม่มีแผนไปหอกลางหรือรร.เตรียมฯ และไม่อยากเดิน)
แต่ก็ยังไม่ได้ขึ้นรถไฟฟ้ากลับ เพราะมาสยามแล้วก็ต้องแวะ Kinokuniya/Asia Books พอเป็นพิธีก่อน
และก็เผื่อว่าในฐานะที่เพิ่งสอบเสร็จ อาจจะได้บังเอิญเจอใครด้วย (เรื่องของเรื่องคืออยากอวดเสื้อ)
ขึ้นไป Kino... ติดใจ A History of Thailand (Chris Baker & Pasuk Phongpaichit) ก็เลยเดินไปสำรวจราคา Asia Books (ตาม routine) ปรากฏว่าไม่มีของ แต่ที่สยามดิสฯ มี ก็เลยเดินต๊อก ๆ ไปสยามดิส (แต่ดันเสร่อไม่รู้ว่าเค้ามีงาน Asia Books Carnival ที่ Living Mall ชั้น 3)
ที่ Asia Books สยามดิสฯ ก็เจอผลของปรากฏการณ์กระแสคลื่นซัดถล่มของ Twilight... อะไรมันจะปานนั้น
(ป้ายบอกให้ลงชื่อจองหนังสือ)
ได้หนังสือแล้วแต่ยังไม่เห็นเจอใครเลย... (ยังไม่ได้อวดเสื้อ) ก็เลยขึ้นไปสำรวจหน้าโรงหนังดีกว่า (กะว่าเจอชัวร์ ไม่เจอก็จะกลับมาโพสท์บล็อกว่าแปลกที่ไม่เจอใครละ) แล้วก็เจอจริง ๆ: เจอเบิร์ด-นรเชษฐ์ กับเค้ก-กฤษณะ ก็หายประสาทกับเสื้อสักที
ว่าไปแล้ววันนี้ราวกับโรงเรียนครึ่ง กทม. สอบเสร็จพร้อมกันโดยแอบนัดหมายเล็ก ๆ... ทั้งห้าง (โดยเฉพาะโรงหนัง) มีแต่เด็กนักเรียนเต็มไปหมด
เดินไปเดินมาเย็นละ... กลับบ้านได้สักที
จบวัน จบปี (ถ้าสอบไม่ตกน่ะนะ) เตรียมเป็น extern โง่ต่อไป - -'
12 December 2008
สืบเนื่องจากกระทู้นี้ที่บอร์ด DekTriam.net...
(เป็นกระทู้ล็อกเฉพาะสมาชิก... คาดว่าผู้ที่หลงเข้ามาอ่านบล็อกจะมีอยู่ท่านเดียวมั้งที่เป็นสมาชิกบอร์ด ยังไงคนอื่นสงสัยเรื่องเนื้อหาติดต่อหลังไมค์ละกันครับ)
ก็เป็นกระทู้กระแสอีกกระทู้นึง เกี่ยวกับเรื่องที่เป็นข่าวหนังสือพิมพ์เมื่อเร็ว ๆ นี้... แต่ประเด็นที่สงสัยมากคือเรื่องปฏิกิริยาตอบสนองของชาวบอร์ด
เพราะตัวเองอ่านดูแล้วก็รู้สึกอยู่ว่าประชดได้สะใจ+ขำดี และออกชัดเจนมาก แต่คนตอบกระทู้จำนวนมากกลับไม่คิดอย่างนั้น ก็เลยสงสัยว่าสมัยที่อายุเท่านั้นความคิดเรายังตามไม่ทันกันขนาดนั้นเชียวเหรอ หรือว่ามันเป็นความแตกต่างของบุคคลมากกว่า?
(ผู้อ่านบล็อกที่กล่าวถึงเห็นแล้วก็ช่วย comment ด้วยนะครับ)
6 December 2008
เห็นนี่ที่ตลาดมวกเหล็ก...
ผู้อ่านบางคนอาจจะเกิดไม่ทัน... มันคือตลับเกม (เครื่อง Famicom?) ครับ...
ไม่ได้เก่าแก่มากมายด้วย เห็นตราประทับเจ้าพนักงานบอกว่าปี 2546
ใครยังมีเครื่องอยู่บ้างไหมเนี่ย... เหอะ ๆ
1 December 2008
วันนี้วันเอดส์โลกครับ
ปีนี้เพื่อน ๆ คุ้นเคยกับริบบิ้นแดงกันแล้ว... คำถามจะเป็นว่าวันไหนแทน
พอดีบ่ายวันนี้เป็น SDL (ที่จริงควรไปช่วยรับเสด็จ แต่ไม่มีเสื้อแขนยาว) ช่วงกลางวันก็เลยแวะไปดูงานเทียนส่องใจที่ลานอาสากาชาด
เพิ่งรู้ว่า NGOs ที่ทำงานเกี่ยวกับ HIV/AIDS มีเยอะขนาดนี้...
ซุ้มเยอะแยะมากมาย แล้วที่ต่างก็มีกันหมดก็คือโบรชัวร์แจกจำนวนมาก... แต่เห็นอันนี้แล้วเตะตาที่สุด
เค้าเจาะจงกลุ่มเป้าหมายกันขนาดนั้นเชียว~
(เป็นโบรชัวร์ของคลินิกสุขภาพชาย ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ครับ)
Motor Expo: What the..?
ผมเคยบ่นเรื่องความตอแหลของสังคมเรื่องโลกร้อนไปแล้ว...
แต่ผมไม่อยากจะเชื่อครับว่าความตอแหลที่ว่านั้นมันจะมากได้เพียงนี้
ไม่อยากจะเชื่อครับ
ผมไม่แน่ใจว่าคนคิดใช้ความหน้าด้านหรือความอยู่ในกะลาทำออกมา แต่มันเป็นไปแล้วจริง ๆ
ทุกคนคงทราบกันอยู่แล้วว่าการเผาไหม้เชื้อเพลิงของยานพาหนะเป็นสาเหตุหลักอย่างหนึ่งของภาวะโลกร้อน แต่ทำไมงานที่มีขึ้นเพื่อส่งเสริมการใช้ยานพาหนะดังกล่าวโดยตรงถึงกล้าเอาปัญหาโลกร้อนมาขายได้?
ผมพยายามคิดว่าคงจะพอให้อภัยได้บ้างถ้าในงานมีการนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปลดปล่อย CO₂ เป็นจุดเด่น แต่จากการประชาสัมพันธ์ที่เห็น ข่าวที่ออกมา และการสอบถามดู ก็หาได้เป็นเช่นนั้นไม่
ถ้าไม่เรียกว่าตอแหล ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วครับ
Update: เรื่องโฆษณา
ใน On ads, rhythm and the BTS ผมลืมพูดถึงโฆษณาที่ผมรำคาญอีกชุดครับ...
ผมไม่คิดว่าเมืองไทยประกันชีวิตจะได้ประโยชน์จากโฆษณาที่เปรียบเทียบลูกค้ากับคนที่เต้นแร้งเต้นกาบ้า ๆ บอ ๆ กลางถนน หรือคนแก่หูตึง/ความจำเสื่อม/หื่น ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นภาพแง่ลบทั้งสิ้น ในโฆษณาอันหลัง แม้ว่าโฆษณาจะต้องการสร้างภาพพนักงานให้บริการตอบคำถามได้ทันใจ แต่สารที่ผมได้รับคือภาพความสาระแนและความรู้สึก [patronizing] ที่ไม่เป็นปัจจัยส่งเสริมให้อยากใช้บริการเลย
แต่พูดถึงโฆษณาประกัน ก็มีอันนี้ที่ถูกใจอยู่ครับ
โฆษณาประกันชีวิต My Lite ของ Ayudhya Allianz C.P. ครับ ผมรู้สึกว่าองค์ประกอบของโฆษณาช่าง [comic] มาก และได้จังหวะลงตัวพอดี จนเวลาเห็นบนรถไฟฟ้าก็อดยิ้มไม่ได้ และมักจะแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ทีเดียวครับ (จังหวะที่เศษเค้กหล่น - ไม่แน่ใจว่าผมเป็นอยู่คนเดียวหรือเปล่านะ)
โฆษณาอีกอันที่ไม่ชอบครับ: Federbräu
ดูแล้วไม่รู้สึกว่าตัวละครผู้ชายจะเป็นคนดีตรงไหนเลยครับ นอกจากจะเก๊กจนน่าถีบแล้ว ยังแสดงท่าทีจ้องจะกินผู้หญิง หลอกลวง ไม่จริงใจ ฯลฯ ถามจริง ๆ เถอะว่าคนที่เจตนาดีจะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ตะโกนเรียกตั้งแต่ตอนแรกที่เห็นคนลืมพาสปอร์ตไว้แล้ว?
แต่เอาเถอะครับ ล้างด้วยโฆษณา ปตท. (เติมความผูกพัน) ดีกว่า (feel good จนเกือบจะเอียน)
Edit:
มีอีกเรื่องที่ลืมพูดถึงครับ: ถูกใจฉายาแพะการเมือง ที่สมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทยตั้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมากมายครับ ตรงใจสุด ๆ - ผมเองยังพูดอยู่หลายครั้งว่าความผิดอย่างเดียวของตำรวจในเหตุการณ์วันที่ 7 คือ [incompetence] เท่านั้นเอง