31 January 2009

Cubic Race 3

เหนื่อยสลบ...

ลากสังขารไปอาบน้ำก่อน

ถ้าไม่ติดอะไรจะมาเล่า


Update:

มาละ...

เกริ่นตั้งแต่ต้นสำหรับหลายคนที่อาจไม่ทราบ: Cubic Race หรือ แรลลี่เปิดฟ้ามหาพิภพ เป็นกิจกรรมของ Cubic Creative ซึ่งตามคำพูดของณัช มี แนวคิดหลัก ๆ ... คือการถอดรูปแบบจากรายการเรียลลิตี้ Amazing Race มาแบบดื้อ ๆ

แนวคิดการจัด Cubic Race ทั่วกรุงเทพฯ นี้ได้ เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปอย่างเน่า ๆ สุด ๆ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2005 แต่ต่อมาก็ได้นำมาจัดเป็นกิจกรรมในค่าย ICT Fun Camp 2 และ Cubic Spirit Camp 2005 ซึ่งในครั้งหลังนี้เองที่กิจกรรมประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

การจัด Cubic Race 3 ในวันที่เดียวกับเอ็นทรีนี้ จึงนับเป็นการนำการแข่งขันสุดระทึกนี้กลับมาจัดอีกครั้ง ในรูปแบบที่วางแผนไว้แต่แรก หลังจากการรอคอยถึง 4 ปีเต็ม

ส่วนรูปแบบรายการ The Amazing Race ที่นำมาใช้ดังที่ว่า ก็เป็นการแข่งขันที่ผู้เข้าแข่งขันจะต้องตามหาบัตรคำสั่ง (clue) ซึ่งจะกำหนดให้ผู้เข้าแข่งขันต้องเดินทางหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อไปเอาบัตรคำสั่งถัด ๆ ไป จนสามารถไปถึงที่หมายได้ในที่สุด (ใน Cubic Race ครั้งนี้มีบัตรคำสั่ง 3 แบบ คือ Route Info - บอกเป้าหมายการเดินทางหรือกิจกรรมที่ต้องทำเพื่อหาบัตรคำสั่งต่อไป; Detour - ให้เลือกทำภารกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง; และ Road Block - ผู้เข้าแข่งขันต้องเลือกตัวแทนคนใดคนหนึ่งเป็นคนทำภารกิจ)


ความจริงแอบบ้าตื่นเต้นกับการแข่งขันครั้งนี้มาก (ทั้ง ๆ ที่ไปเป็นแค่กรรมการสนาม) ขนาดที่ว่าบ้าจัดกระเป๋าตั้งแต่คืนวันศุกร์ (ปกติจะเดินทางไปค้างไหนยังจัดกระเป๋าเช้าวันนั้น) เอาหูฟัง Bluetooth ที่ไม่เคยใช้มาลองตั้งแต่วันจันทร์ นั่งทำบันทึกรายละเอียดกติกาและบทลงโทษ และเช็คอีเมลแทบจะเช้าเย็นเพื่อดูว่ารายละเอียด clue มีอะไรต้องแก้อีกบ้าง

เวอร์ซะไม่มี

แล้วนี่ที่จริงก็เป็นสมาชิกแบบสุดจะ inactive... ไปถึงนี่แทบไม่รู้จักใครเลยว่างั้น (แต่เรื่องอย่างนี้เนียนได้ อย่าต้องเรียกชื่อคนอื่นเป็นพอ 55+) แค่ยังแอบแปลกใจว่าเรื่อง (บ้า ๆ) ที่ทำไว้เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วนี่จะทำให้ยังมีน้องจำได้อยู่ (จะสารภาพว่าพี่จำไม่ได้เลยแม้แต่คนเดียว ขอโทษนะครับ~ -/\-)

เอาเถอะ~ นี่ทีแรกก็พูดถึงอยู่ว่าผู้เข้าแข่งขันจะต้องลุ้นว่าจะได้กรรมการเป็นใคร เพราะกรรมการอาวุโส ๆ นี่ดีไม่ดีมีหวังวิ่งไม่ไหวพาเอาทีมหยุดเป็นพัก ๆ อีก ทีนี้ผลปรากฏว่าเค้าให้เป็นกรรมการทีม 4: ข้าวตูกับคุณพ่อจร (ได้ข่าวมาว่าแอบมี request - หารู้ไม่ว่าความรู้ทางเวชกรรมใด ๆ นี่หาแทบมิได้) ก็เลยไม่มีสิทธิ์บ่น

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเล่ายังไงดี แต่จะบอกว่าสนุกมาก ๆ ตั้งแต่วิ่งข้ามสะพานลอยหน้าประตู 2 ไปมา หลงทางในสวนรถไฟ ถีบจักรยานอย่างไม่เห็นจุดหมาย เบียดกับฝูงมหาชนในเยาวราช วิ่งหาขนมปังปิ้งทั้งที่ที่จริงต้องหาซาลาเปา แอบหลับบนรถเมล์ตอนรถติด เดิน/วิ่งชมกรุงเก่า รอเรือด่วนอย่างไร้อนาคต ฯลฯ หรือแม้กระทั่งการภาวนาว่าเมื่อไรจะตามไปเจอทีมก่อนหน้าสักที

แถมยังได้ฤกษ์บังคับให้ซื้อรองเท้าใหม่ด้วย (กำลังกะจะหาหมากฝรั่งมาซ่อมอยู่ละ ยังดีว่าได้เทปกาวจากชาร์ปมาประคองไว้จนสิ้นวันได้)

ถึงจะตามรั้งท้ายเกือบตลอดแต่ก็นับเป็นสุดยอดประสบการณ์ครั้งหนึ่งเลยทีเดียว

(แล้วนี่ถ้าไปอยู่ทีมอื่น เผลอ ๆ กรรมการจะต้องให้ผู้เข้าแข่งขันแบกไป - แค่ถีบจักรยานเสร็จนี่ก็แทบก้าวขาไม่ออกแล้ว - -')

ยังไงก็ขอโทษข้าวตูกับคุณพ่อด้วยที่ให้หยุดก่อนนะครับ ที่จริงถ้าลองเล่นต่ออาจจะยังตามไปทันได้ขับโกคาร์ทบ้าง (ถ้ามีแท็กซี่ไปถูกน่ะนะ)

...

สรุปว่าเอาหูฟัง Bluetooth มาใช้ครั้งนี้นี่คุ้มจริง ๆ (ไม่นับ เท่ factor ซึ่งไม่แน่ใจว่าได้คะแนนบ้างหรือเปล่า) แค่ตอนขี่จักรยานนี่ก็กดโทรศัพท์ไปไม่รู้กี่ครั้งละ จะเสียก็ตรงที่เจ็บหูจิบ... ถึงได้เห็นเปลี่ยนข้างทุก 20 นาทีอย่างที่ปนัดถามนี่แหละ ให้ใส่ทั้งวันนี่ไม่ไหวเหมือนกัน

ซึ่งโทรศัพท์นี่... สุดท้ายก็ไม่รู้แต่ละเบอร์ที่โทรไปนี่คุยกับใครไปบ้าง บอกแล้วก็จำไม่เคยได้ (เฮ่อ) แต่ค่าโทรศัพท์ 38 รายการ 18 บาท 75 สตางค์นี่... รู้งี้ไม่น่าต้องรีบเติมเงินเล้ย (ใช้แฮปปี้ โทรในเครือข่าย นาทีแรก 25 สต. ต่อไปนาทีละ 1.25 บาท)

แล้วก็พูดอยู่ว่างานนี้ที่จริงน่าชวนจรสพงษ์ไปเล่น (เพราะรายนั้นเป็น "บักปอปท่องเมืองกรุง" ขาประจำ)... แต่ความจริงก็คงไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไร เพราะสังขารคงสู้เด็ก ๆ ไม่ไหวอยู่ดี

ว่าไปแล้วเรื่องเส้นทางท้องที่นี่มันมากับประสบการณ์ (และอายุ~) จริง ๆ แฮะ... เพราะตอน ม.4 ที่เอกดนัยรู้จัก ม.พัน 4 ตรงเกียกกาย เรายังยกให้เป็นมนุษย์แผนที่มหากาลกันเลย แล้วขนาดสวนลุมพินีนี่ตัวเองยังเพิ่งจะรู้จักเอาก็ตอนที่เข้าคณะที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนกับสวนลุมฯ นี่เอง

แต่... Google Earth นี่มันก็เพิ่งมามีเมื่อ 3 ปีมานี้เองนี่นะ


รอติดตามวิดีโอต่อไป...

Last edited: 2009-02-02 23:20

30 January 2009

65th Traditional Football Match

This media requires the Windows Media Player plugin.

วันนี้แอบงานบอลฟีเวอร์เล็ก ๆ ขึ้นมากะทันหัน บ้าฮัมเพลงจุฬาฯ บันเทิงทั้งวัน (เพราะจำเนื้อไม่ได้) ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรกับงานปีนี้เค้าเล้ย (นอกจากไล่ซื้อเสื้อตามปกติทุกปี)

แต่พรุ่งนี้ก็คาดว่าคงไม่ไปหรอก... เลิกล้มความตั้งใจที่จะทวงสัญญานางสาว อ.¹ ตั้งแต่รู้ว่าเธอไปวิชาเลือกที่จังหวัดต้นแม่น้ำทางภาคกลางตอนบนละ กอปรกับมีงานจากทาง  Cubic Race  3  อยู่ด้วย ปีนี้ก็คงเป็นปีที่สองที่จะไม่ได้ไปงาน (ถัดจากปีที่แล้ว)

ที่จริงกะว่าถ้าธรรมศาสตร์ทำเสื้อออกมาเป็นสีเหลือง-แดงอย่างละครึ่งจะซื้อเสื้อไปขึ้นสแตนด์ฝั่งโน้นเลย แต่ก็... นะ...

(ตอนแรกนึกว่าจะหาคนชวนไปไม่ได้ด้วย แต่ก็คาดผิดไปเหมือนกัน)


  • Last edited: 2009-02-01 13:30
  • เพลงจุฬาฯ บันเทิงข้างต้น ขโมยมาจากเว็บ CU Chorus
  1. เรื่องนางสาว อ. ติดตามเพิ่มเติมได้ที่เอ็นทรี TU-CU Traditional Football 63rd

18 January 2009

18 January 2009

เกิดอาการเจ้าหนี้ทวงอีกแล้ว

แต่ยังไม่มีเรื่องจะโพสท์... เก็บตกเรื่องที่ลืมพูดถึงในบล็อกที่แล้วก่อนแล้วกัน

  • เรื่องโฆษณา:
    • ชอบ mascot ตัวฟ้า ๆ กลม ๆ ของ AIS มาก... ขอตบมือให้คนออกแบบ
    • ชอบ "เห็ดฮังการี" ด้วย (ที่จริงก็สืบเนื่องจาก "แว่น" ด้วยแหละ
  • ไป Bangkok Street Show ที่สวนลุมพินีมาเมื่อวันที่ 19 ธ.ค... ก็ไม่ถึงสองชั่วโมงมั้ง ไม่ได้เดินทั่ว/ดูอะไรมากเท่าไร แต่ชอบบรรยากาศมากมาย อากาศเย็นสบาย ผู้คนเดินขวักไขว่ในสวนสาธารณะ ดูรื่นเริงแบบไม่เหมือนประเทศไทยอย่างบอกไม่ถูก

พูดถึงแล้ววันนี้ไม่ค่อยหนาว แต่สัปดาห์กว่าที่ผ่านมานี่เย็น (ยะเยือก) ดีจริง ๆ... อุณหภูมิต่ำกว่า 20 ทุกเช้าเลย

รู้สึกว่าไม่ได้เจออากาศเย็นแบบนี้ตั้งแต่ ม.2 (1999) แล้วนะเนี่ย (ปีนั้นหนาวไม่นานด้วย)

แต่ตอน ม.2 นั่นยังใส่เสื้อกันหนาวไปโรงเรียน... เดี๋ยวนี้นี่ไม่รู้มีปัญหาอะไรกับเสื้อกันหนาวหรือเปล่า เพราะเห็นไม่เคยใส่ไปโรงเรียนเลยตั้งแต่ ม.4 แล้ว (ถึงเคยพูดเล่นว่าจะเอาเสื้อกันหนาวที่ใส่เล่นสกีไปใส่ประชดในห้องเรียน อปร ก็ตาม)

ที่จริงแอบนึกถึงข้อความตอนนึงในข้างในกระโปรงม่วง โดยเพชรน้ำหนึ่ง (หนังสือไปอยู่ไหนซะละ หาไม่เจอ)

เอาเถอะ ว่าง ๆ (แปลว่าโอกาสน้อยมาก) เห็นทีต้องทำ OPAC หนังสือในบ้านสักที

แต่ตอนนี้กำลังงงว่า psychrometer (hygrometer แบบกระเปาะแห้ง-กระเปาะเปียก) มันทำงานยังไงกันแน่

ใครพอรู้ก็ช่วยสงเคราะห์หน่อยแล้วกัน

หมดเรื่องโพสท์ละ

แถมลิงก์ส่งท้าย เจ๋งดี: http://en.wikipedia.org/wiki/File:DescenteInfinie.ogg

นี่ด้วย: http://en.wikipedia.org/wiki/File:Grey_square_optical_illusion.PNG

4 January 2009

4 January 2009

ที่สุดก็ดองข้ามปีจนได้

เกือบจะโพสท์ได้ครบทุกเดือนอยู่แล้วเชียว

เอาเถอะ ไหน ๆ ก็เข็น (อย่างยากลำบาก) จนเครื่องติดแล้ว เรากลับสู่โหมดปกติ (ของบล็อก) กันดีกว่า...

ไล่ย้อนหลังเป็นเรื่อง ๆ ไปเลยแล้วกัน

Happy New Year 2009!

กะจะตั้งริงโทนเพลงพรปีใหม่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ทำ... (แต่ก็ดีแล้ว เพราะแทบไม่มีโทรศัพท์เข้าเลย)

26 December 2008

ขอไม่พูดถึงเรื่องสอบ (ไม่เคยพัฒนา)

ด้วยว่าครั้งนี้สอบช่วงเช้า เลยเหลือว่างอีกครึ่งวัน ครั้นจะกลับบ้านเลยก็รู้สึกใช่ที่ชอบกล แต่แล้วก็ไม่มีที่ไปอยู่ดี

เลยแกร่ว ๆ ดูพวก rotate 4 ถ่ายรูปกันอยู่พักใหญ่ จนกุ้ง-ยุทธนา ชวนเป็นเพื่อนเดินไปเอาเค้กที่สีลม ก็เลยออกมา... แต่ไป ๆ มา ๆ คุณกุ้งเกิดต้องไปตามหากระเป๋าพยาบาลที่ยืมไปเยี่ยมบ้านสัปดาห์ก่อน ก็เลยยังไม่ได้ไปเอาเค้ก ไอ้เราก็... เมื่อกี้คุยเรื่องเห็นป้ายว่า LoFt มาเปิดที่จามจุรีสแควร์ ก็เลย... ไปก็ไปวะ (สอบเสร็จคราวก่อนก็ไปสำรวจจามสแควร์ อะไรมันจะสิ้นคิดขนาดนี้)

ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินไป (ช่างไม่คุ้มเสียนี่กระไร แต่มาโผล่ฝั่ง ถ.ราชดำริแล้ว ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดนอกจากเดิน) ก็ไปขึ้นลงบันไดเลื่อนสำรวจ ๆ อีกรอบ ก็เจอว่านอกจาก LoFt แล้ว...

Daiso at Chamchuri Square

มี Daiso มาเปิดด้วยแฮะ

(ส่วน LoFt ไม่ยอมให้ถ่ายรูป)

LoFt ก็... ขนาดร้านใหญ่ปานกลางอยู่ สัก 3 unit ได้มั้ง (ตอบละนะ) ส่วน Daiso นี่ เดินเข้าไปนี่ต้องคอยระวังกระเป๋ากลัวจะเกี่ยวอะไรร่วงกราวลงมา

(พูดถึงกระเป๋านี่... วันนี้แบกชีทไปด้วย ก็ไม่ได้เยอะแต่ว่าหิ้วไปหิ้วมาทั้งวัน เลยชักสงสัยว่าพวกผู้หญิงเค้าทนแบกบ้านใส่กระเป๋า Harrods (ปลอม) หิ้วไปมาทุกวันได้ยังไงกัน)

ขึ้นไปศูนย์หนังสือจุฬาฯ เห็น gift set ผ้าขนหนูหรรษา น่ารักดี (แต่ไม่กล้าถ่ายรูป หลังจากเผชิญหน้ากับพนักงาน LoFt มา)

แล้วก็เจอว่าเสื้องานบอลออกแล้ว (อบจ. นี่... แต่ละปีจะทำงานต่อเนื่องกันสักนิดไม่ได้เลยรึไง เว็บเกือบ ๆ จะดีเมื่อไรก็เริ่มใหม่เมื่อนั้น คนจะดูนี่ต้องควานหาใหม่ตลอด) ก็เลยได้จุดหมายไปศาลาพระเกี้ยวต่อ...

เดินต๊อก ๆ ทะลุผ่านซอยข้างคณะบัญชี (หน้าตึกมหิตลาธิเบศร์ ซึ่งตอนแรกชื่อตึกนวัตวิทยาการ) อ๊ะ มีตลาดนัดด้วยแฮะ (เฉียด ๆ เข้าไปดูหน่อย แต่ก็ไม่เคยซื้ออะไร)

เสื้องานบอลปีนี้มีแบบเดียว (ไม่แยกชาย-หญิง) และบอกขนาดเป็นนิ้วครับ

ถูกใจมากมาย... ทำไมไม่ใช้ระบบนี้เป็นมาตรฐานให้หมดนะ จะได้ตัดปัญหาความ [arbitrary] ของขนาดเสื้อที่ช่างเป็นปัญหาตลอดกาลไปได้ซะ

เสื้องานบอล ไซส์ 38

(ตอนที่ไปซื้อนี่ไซส์ 40 กับ 44 หมด ไม่งั้นก็อาจจะพะวงเลือกอยู่อีกนานอยู่ดี)

เรื่องปัญหาขนาดเสื้อนี่เห็นสด ๆ ล่าสุดก็เรื่องเสื้อ extern นี่แหละครับ

แต่อันนี้ปัญหาหลักเกิดจากเสื้อที่ลองกับเสื้อที่ได้จริงขนาดไม่ตรงกันเสียมากกว่า

ขำดี... วันที่ 27 พ.ย. เป็นเทศกาลวิตกจริตหมู่ ไปนั่งยืนดูเพื่อน ๆ ลองเสื้อแล้วลองอีก (เชื่อได้ว่าปุริมลองเปลี่ยนไปเปลี่ยนมากว่า 20 รอบ)

(ที่จริงผู้เขียนก็ไม่ได้น้อยหน้าเท่าไร... หลังจากสั่งไปแล้วโดน psycho ก็ไปวิ่งเต้นขอแก้ เสร็จแล้วก็แก้กลับอีก)

แต่เอาเถอะ ประเด็นก็คือถ้าบอกขนาดเสื้อเป็นตัวเลขตั้งแต่ต้น ก็ไม่ต้องมาตั้งชื่อขนาดให้ผิดไปจากความเป็นจริงเพื่อเพิ่มความมั่นใจของผู้ซื้อให้วุ่นวายอีก (ทำไมเสื้อผู้หญิงถึงมี SSS ถึง M ขณะที่เสื้อผู้ชายมีขนาด S ถึง XXL? เพราะผู้หญิงอยากได้ชื่อว่าตัวเล็กส่วนผู้ชายไม่อยากหรือเปล่า)

...

ได้เสื้อแล้วก็ขึ้นรถป๊อพไปสยาม... (ไม่มีทางอื่นไป เพราะไม่มีแผนไปหอกลางหรือรร.เตรียมฯ และไม่อยากเดิน)

แต่ก็ยังไม่ได้ขึ้นรถไฟฟ้ากลับ เพราะมาสยามแล้วก็ต้องแวะ Kinokuniya/Asia Books พอเป็นพิธีก่อน

และก็เผื่อว่าในฐานะที่เพิ่งสอบเสร็จ อาจจะได้บังเอิญเจอใครด้วย (เรื่องของเรื่องคืออยากอวดเสื้อ)

ขึ้นไป Kino... ติดใจ A History of Thailand (Chris Baker & Pasuk Phongpaichit) ก็เลยเดินไปสำรวจราคา Asia Books (ตาม routine) ปรากฏว่าไม่มีของ แต่ที่สยามดิสฯ มี ก็เลยเดินต๊อก ๆ ไปสยามดิส (แต่ดันเสร่อไม่รู้ว่าเค้ามีงาน Asia Books Carnival ที่ Living Mall ชั้น 3)

ที่ Asia Books สยามดิสฯ ก็เจอผลของปรากฏการณ์กระแสคลื่นซัดถล่มของ Twilight... อะไรมันจะปานนั้น

Twilight series out-of-stock notice at Asia Books

(ป้ายบอกให้ลงชื่อจองหนังสือ)

ได้หนังสือแล้วแต่ยังไม่เห็นเจอใครเลย... (ยังไม่ได้อวดเสื้อ) ก็เลยขึ้นไปสำรวจหน้าโรงหนังดีกว่า (กะว่าเจอชัวร์ ไม่เจอก็จะกลับมาโพสท์บล็อกว่าแปลกที่ไม่เจอใครละ) แล้วก็เจอจริง ๆ: เจอเบิร์ด-นรเชษฐ์ กับเค้ก-กฤษณะ ก็หายประสาทกับเสื้อสักที

ว่าไปแล้ววันนี้ราวกับโรงเรียนครึ่ง กทม. สอบเสร็จพร้อมกันโดยแอบนัดหมายเล็ก ๆ... ทั้งห้าง (โดยเฉพาะโรงหนัง) มีแต่เด็กนักเรียนเต็มไปหมด

เดินไปเดินมาเย็นละ... กลับบ้านได้สักที

จบวัน จบปี (ถ้าสอบไม่ตกน่ะนะ) เตรียมเป็น extern โง่ต่อไป - -'

12 December 2008

สืบเนื่องจากกระทู้นี้ที่บอร์ด DekTriam.net...

(เป็นกระทู้ล็อกเฉพาะสมาชิก... คาดว่าผู้ที่หลงเข้ามาอ่านบล็อกจะมีอยู่ท่านเดียวมั้งที่เป็นสมาชิกบอร์ด ยังไงคนอื่นสงสัยเรื่องเนื้อหาติดต่อหลังไมค์ละกันครับ)

ก็เป็นกระทู้กระแสอีกกระทู้นึง เกี่ยวกับเรื่องที่เป็นข่าวหนังสือพิมพ์เมื่อเร็ว ๆ นี้... แต่ประเด็นที่สงสัยมากคือเรื่องปฏิกิริยาตอบสนองของชาวบอร์ด

เพราะตัวเองอ่านดูแล้วก็รู้สึกอยู่ว่าประชดได้สะใจ+ขำดี และออกชัดเจนมาก แต่คนตอบกระทู้จำนวนมากกลับไม่คิดอย่างนั้น ก็เลยสงสัยว่าสมัยที่อายุเท่านั้นความคิดเรายังตามไม่ทันกันขนาดนั้นเชียวเหรอ หรือว่ามันเป็นความแตกต่างของบุคคลมากกว่า?

(ผู้อ่านบล็อกที่กล่าวถึงเห็นแล้วก็ช่วย comment ด้วยนะครับ)

6 December 2008

เห็นนี่ที่ตลาดมวกเหล็ก...

Game cartridges

ผู้อ่านบางคนอาจจะเกิดไม่ทัน... มันคือตลับเกม (เครื่อง Famicom?) ครับ...

ไม่ได้เก่าแก่มากมายด้วย เห็นตราประทับเจ้าพนักงานบอกว่าปี 2546

ใครยังมีเครื่องอยู่บ้างไหมเนี่ย... เหอะ ๆ

1 December 2008

วันนี้วันเอดส์โลกครับ

ปีนี้เพื่อน ๆ คุ้นเคยกับริบบิ้นแดงกันแล้ว... คำถามจะเป็นว่าวันไหนแทน

พอดีบ่ายวันนี้เป็น SDL (ที่จริงควรไปช่วยรับเสด็จ แต่ไม่มีเสื้อแขนยาว) ช่วงกลางวันก็เลยแวะไปดูงานเทียนส่องใจที่ลานอาสากาชาด

เพิ่งรู้ว่า NGOs ที่ทำงานเกี่ยวกับ HIV/AIDS มีเยอะขนาดนี้...

ซุ้มเยอะแยะมากมาย แล้วที่ต่างก็มีกันหมดก็คือโบรชัวร์แจกจำนวนมาก... แต่เห็นอันนี้แล้วเตะตาที่สุด

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้ในกลุ่มชายรักชาย

เค้าเจาะจงกลุ่มเป้าหมายกันขนาดนั้นเชียว~

(เป็นโบรชัวร์ของคลินิกสุขภาพชาย ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ครับ)

Motor Expo: What the..?

ผมเคยบ่นเรื่องความตอแหลของสังคมเรื่องโลกร้อนไปแล้ว...

แต่ผมไม่อยากจะเชื่อครับว่าความตอแหลที่ว่านั้นมันจะมากได้เพียงนี้

Motor Expo 2008 ticket

ไม่อยากจะเชื่อครับ

ผมไม่แน่ใจว่าคนคิดใช้ความหน้าด้านหรือความอยู่ในกะลาทำออกมา แต่มันเป็นไปแล้วจริง ๆ

ทุกคนคงทราบกันอยู่แล้วว่าการเผาไหม้เชื้อเพลิงของยานพาหนะเป็นสาเหตุหลักอย่างหนึ่งของภาวะโลกร้อน แต่ทำไมงานที่มีขึ้นเพื่อส่งเสริมการใช้ยานพาหนะดังกล่าวโดยตรงถึงกล้าเอาปัญหาโลกร้อนมาขายได้?

ผมพยายามคิดว่าคงจะพอให้อภัยได้บ้างถ้าในงานมีการนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปลดปล่อย CO₂ เป็นจุดเด่น แต่จากการประชาสัมพันธ์ที่เห็น ข่าวที่ออกมา และการสอบถามดู ก็หาได้เป็นเช่นนั้นไม่

ถ้าไม่เรียกว่าตอแหล ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วครับ

Update: เรื่องโฆษณา

ใน On ads, rhythm and the BTS ผมลืมพูดถึงโฆษณาที่ผมรำคาญอีกชุดครับ...

<a href="//www.youtube.com/watch?v=CKqi2IZ4RRI">Link</a><a href="//www.youtube.com/watch?v=0RhBtCyN_ew">Link</a>

ผมไม่คิดว่าเมืองไทยประกันชีวิตจะได้ประโยชน์จากโฆษณาที่เปรียบเทียบลูกค้ากับคนที่เต้นแร้งเต้นกาบ้า ๆ บอ ๆ กลางถนน หรือคนแก่หูตึง/ความจำเสื่อม/หื่น ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นภาพแง่ลบทั้งสิ้น ในโฆษณาอันหลัง แม้ว่าโฆษณาจะต้องการสร้างภาพพนักงานให้บริการตอบคำถามได้ทันใจ แต่สารที่ผมได้รับคือภาพความสาระแนและความรู้สึก [patronizing] ที่ไม่เป็นปัจจัยส่งเสริมให้อยากใช้บริการเลย

แต่พูดถึงโฆษณาประกัน ก็มีอันนี้ที่ถูกใจอยู่ครับ

<a href="//www.youtube.com/watch?v=WvjAE5qkvZg">Link</a>

โฆษณาประกันชีวิต My Lite ของ Ayudhya Allianz C.P. ครับ ผมรู้สึกว่าองค์ประกอบของโฆษณาช่าง [comic] มาก และได้จังหวะลงตัวพอดี จนเวลาเห็นบนรถไฟฟ้าก็อดยิ้มไม่ได้ และมักจะแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ทีเดียวครับ (จังหวะที่เศษเค้กหล่น - ไม่แน่ใจว่าผมเป็นอยู่คนเดียวหรือเปล่านะ)

โฆษณาอีกอันที่ไม่ชอบครับ: Federbräu

<a href="//www.youtube.com/watch?v=ndYn6nqUn3A">Link</a>

ดูแล้วไม่รู้สึกว่าตัวละครผู้ชายจะเป็นคนดีตรงไหนเลยครับ นอกจากจะเก๊กจนน่าถีบแล้ว ยังแสดงท่าทีจ้องจะกินผู้หญิง หลอกลวง ไม่จริงใจ ฯลฯ ถามจริง ๆ เถอะว่าคนที่เจตนาดีจะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ตะโกนเรียกตั้งแต่ตอนแรกที่เห็นคนลืมพาสปอร์ตไว้แล้ว?

แต่เอาเถอะครับ ล้างด้วยโฆษณา ปตท. (เติมความผูกพัน) ดีกว่า (feel good จนเกือบจะเอียน)

<a href="//www.youtube.com/watch?v=iHdCAw3QDhk">Link</a>

Edit:

มีอีกเรื่องที่ลืมพูดถึงครับ: ถูกใจฉายาแพะการเมือง ที่สมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทยตั้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมากมายครับ ตรงใจสุด ๆ - ผมเองยังพูดอยู่หลายครั้งว่าความผิดอย่างเดียวของตำรวจในเหตุการณ์วันที่ 7 คือ [incompetence] เท่านั้นเอง

Last edited 16:28, 4 January 2009

Copyright of posted media are owned by their respective owners.