อืมม... กลับมาแล้ว (ตั้งแต่วันที่ 11)
ไม่รู้จะเล่าอะไร... ก็มีประเด็นที่น่าสนใจ (หรือเปล่า?) เช่น...
- อย่างที่หนังสือนำเที่ยวบอก ไปญี่ปุ่นนี่ฟังคำว่า いらっしゃいませ (irasshaimase) จนหูชาเลย... ประจักษ์จัง ๆ เลยว่าประโยค "สวัสดีครับ เชิญครับ" นี่มันแปลมาจากอะไร (ถ้าจำไม่ผิด เคยได้ยินครั้งแรกที่ร้าน Tsutaya เมื่อประมาณ 8-9 ปีที่แล้ว (นี่เราแก่ขนาดนั้นแล้วเรอะ))
- เหอะ ๆ... ภาษาญี่ปุ่นที่เคยเรียน... หายไปไหนหมดแล้วไม่รู้ พอจะถามทางเป็นภาษาญี่ปุ่นได้นิดหน่อยก็ฟังที่เค้าตอบไม่รู้เรื่องอยู่ดี... สรุปคือ ฟังภาษาญี่ปุ่นได้น้อยกว่าคนญี่ปุ่นพูดภาษาอังกฤษนิดนึง เลยไม่ค่อยช่วยอะไร (ขนาด katakana ยังจำไม่ได้เล้ย~) แต่อย่างน้อยก็ทำให้ฟังคนญี่ปุ่นพูดภาษาอังกฤษรู้เรื่องมากขึ้นหน่อย
- สัมผัสคลื่นมหาชนที่สี่แยก Shibuya และกระแสชนคนทำงานบนทางเท้า Shinjuku (อันหลังนี่เหมือนเป็นกองทัพ salaryman สักอย่าง... ถึงแม้ทุกคนจะเดินตัวใครตัวมัน แต่ในความตัวใครตัวมันนั้นมันมีความเป็นหนึ่งอยู่อย่างบอกไม่ถูก) สถานี Shinjuku นี่เหมือนเป็น portal อะไรสักอย่างที่พ่นคนออกมาไม่ขาดสาย
- เจอคนสูบบุหรี่น้อยกว่าที่คิด มาก เผลอ ๆ น้อยกว่าตอนไป Deutschland/Austria อีก (สะกดเยอรมนีไม่ถูก)
- ทุกคนที่เห็น (ที่ Tōkyō) เหมือนจะพกโทรศัพท์มือถือดูท่าทางสมัยใหม่ แต่คนที่ใส่หูฟังเดินตามถนน/ขึ้นรถไฟ ไม่เห็นจะดูว่าเยอะเท่ากรุงเทพฯ
- ไม่ได้เห็นเจ้าหน้าที่ชานชาลาผลักคนเข้าไปให้ประตูรถไฟปิด
- Narita มันอยู่ไกล Tōkyō มาก หรือสุวรรณภูมิมันอยู่ใกล้กรุงเทพฯ เกินไป?
- Shinkansen ไม่นิ่มอย่างที่คาดหวังไว้
- ไม่เห็นรถไฟที่เผาไหม้เชื้อเพลงสักขบวน (แต่เรียกรถไฟฟ้าว่ารถไฟ)
- เห็นซากุระบาน 4 ต้น
- สงครามนี่มันแย่จริง ๆ (ทั้ง Tōkyō แทบจะไม่เห็นอะไรเก่ากว่า WW II เลย)
- ไม่เห็นภูเขาไฟฟูจิจาก Shinkansen สาย Tōkaidō แต่ตอนบินกลับกรุงเทพฯ กัปตันเอียงเครื่องบินให้ดูนี่
- ป.ล. อีกอย่าง: ไปแล้วชักสงสัยว่าทำไมในโคนันถึงเรียกพวกผู้ร้ายว่าชายชุดดำ เพราะที่ไปนี่ก็เห็นเกือบทุกคนแต่งตัวสีดำกันทั้งนั้น
Last edited: 2008-09-09 23:10
อยากเห็นรูปจัง
ReplyDeleteเอ เท่าที่จำได้ ชิงกันเซ็นมันก็นุ่มดีนะ
พอดีเราไปคาดหวังว่ามันจะนิ่งเหมือนเครื่องบินเวลาอากาศดีน่ะสิ~ แต่พอช่วงในเมืองมันโคลงเยอะเหมือนกัน
ReplyDelete