20 September 2006

Democracy in Thailand... When? How?

English version:

Just thought I wanted to elaborate on my last post, about my thoughts on the subject. (Will I survive? I already made a few jokes today on how my display picture may be lethal, as we don't have a constitution supporting our freedoms anymore.)

My current display name in MSN messenger pretty much summarizes the points: "We aren't taking a great step backwards; we just never learnt to progress."

One interesting point is how so many of the people agree with and welcome the coup. The reason's pretty simple, actually: the people are fed up with Thaksin.

More fed up than with military interferance in politics, which we thought ended in Bloody May fourteen years ago.

This too clearly reflects upon Thais' habits of not caring about the process, as long as things turn out the way they like. (Compare this to the war on drugs.) Whether this qualifies as an Aesop Frogs-Who-Desired-a-King story, I don't know.

Actually, that we haven't heard voices of opposition may simply be because people still love their lives. But try and take a perspective from current events...

To make proper "Democratic Reforms", the old had to be abolished. Let's reset, and back to the drawing board...

As for the processes we struggled through, from drafting article 211, to electing the Constitution Committee, to creating all those institutions, the hell with it.

If you ask me, well yes, it seems a pity, seeing as we spent fifteen years on them, but in actuality we aren't stepping any much backwards.

If we were, why would people be cheering for the military right now?

It clearly shows how the last fifteen years of reforms haven't taken us anywhere; we're still here with the same old views on the same old events.

Nowhere out of the vicious cycle.

Ever since we changed the name of our government to "democracy" 74 years ago, we've never had any real sense of democracy.

Since democracy isn't gathering to protest against a tyrant, or marking an X on a piece of paper (money received or not).

There has to be the people's understanding and sense of duty, to exercise the rule with is theirs.

Tough, indeed.

And it won't be anyday soon.

We thought we had the perfect people's constitution, but what so far? All the balances and checks so carefully designed undermined. Broken. Why?

Not because of a corrupt leader

Because of the people's ignorance.

If we started anew today, or even if yesterday's events hadn't happened, democratic reform will never make any progress without educating the people.

Don't forget, democracy is rule of the people, by the people, for the people. As long as the people remain stupid, so does the rule, and the nation can never develop.

And as I said to a friend today, if you think we haven't had democracy in the recent past, what could possibly make you believe we will tomorrow, the day after, next year, or in a decade?

To hope wouldn't be enough.

But that's still all we can do today.

Original:

ก็อยากจะขยายความจากโพสท์ที่แล้วสักหน่อย ความเห็นทั่ว ๆ ไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ (จะเป็นไรเปล่าเนี่ย... วันนี้พูดเล่น ๆ กับหลายคนอยู่ว่าใช้ display pic นี้อาจตายได้ เพราะไม่มีเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแล้ว)

ชื่อผมใน msn messenger ตอนนี้ก็พอจะสรุปประเด็นหลักไว้ได้: "ไม่ใช่ถอยหลังเข้าคลอง แต่ไม่เคยวิวัฒนาการพอที่จะขึ้นบก"

สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือการที่เห็นว่าประชาชนจำนวนมากเห็นด้วย และแสดงความยินดีกับการทำรัฐประหาร ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรนอกจากว่าทุกคนต่างเอือมระอากับนายกฯ ทักษิณเต็มทีแล้ว

เอือมระอามากกว่าการแทรกแซงการเมืองโดยทางทหาร ที่สิบสี่ปีที่ผ่านมาเราต่างก็เชื่อกันว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าเก่าที่จบลงที่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬเสียอีก

ยังไงก็ยังสะท้อนนิสัยคนไทยที่ไม่ได้สนใจว่าขั้นตอนที่ได้มาจะเป็นอย่างไร ขอให้ได้อย่างที่ต้องการก็พอ (ลองเทียบกับสงครามยาเสพติดนะครับ) ซึ่งมันเข้าสถานการณ์กบเลือกนายหรือเปล่า ผมก็ไม่ทราบ

อันที่จริงการที่ไม่ได้ยินเสียงคนต่อต้านเท่าไรอาจจะเป็นเพราะยังรักชีวิตกันอยู่ก็ได้ แต่ลองมองดู จากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วตอนนี้...

จะ "ปฏิรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตย" เสียใหม่ให้ได้ผล ก็เลยต้องทำลายทิ้งซะ เหมือน reset แล้วเริ่มนับหนึ่งใหม่กันอีกรอบ...

ส่วนกระบวนการที่พยายามตรากตรำกันมาตั้งนาน ตั้งแต่ร่างมาตรา 211 เลือก สสร. ร่างรัฐธรรมนูญ ตั้งองค์กรอิสระอีกมากมาย ก็โยนทิ้งไป

จริง ๆ แล้ว ถ้าถามผม ผมก็ว่ามันก็ดูน่าเสียดายอยู่ ใช้เวลาอยู่ตั้งสิบห้าปี แต่จริง ๆ แล้ว เราก็ไม่ได้ก้าวถอยหลังอะไรกันนักหรอกครับ

ถ้าถอยหลังจริง แล้วคนจะโห่ร้องแสดงความยินดีกับกองกำลังทหารอยู่ได้อย่างไร

มันสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนครับ ว่ากระบวนการปฏิรูปสิบห้าปีที่ผ่านมา ไม่ได้พาเรามาถึงไหนเลย หากแต่เราก็ยังมีทัศนคติเดิม ๆ กับเหตุการณ์เดิม ๆ ที่เกิดขึ้น

ยังไม่ออกจากอุปาทวจักร

ตั้งแต่เปลี่ยนชื่อการปกครองเป็นแบบ "ประชาธิปไตย" มา 74 ปี เรายังไม่เคยมี sense ของความเป็นประชาธิปไตยจริง ๆ เลย

ก็ประชาธิปไตยมันไม่ใช่แค่การชุมนุมเพื่อขับไล่ทรราช หรือออกจากบ้านมากากบาทลงกระดาษแล้วใส่กล่อง (จะรับเงินหรือไม่ก็สุดแท้แต่)

แต่จำเป็นต้องมีความเข้าใจและความสำนึกในหน้าที่ ของประชาชนทุกคน ในการใช้อธิปไตยที่เป็นของตน

ยากครับ

อีกนาน

เรานึกว่าเรามีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่สุดแสนจะเลิศเลอเพอร์เฟ็คท์ แต่ที่ผ่านมาเป็นยังไงครับ balances and checks ทั้งหลายที่ออกแบบมาอย่างดีพังทลายหมด เพราะอะไรครับ

ไม่ใช่เพราะผู้นำทุจริต

แต่เพราะประชาชนไม่เข้าใจ

ไม่ว่าเราจะนับหนึ่งใหม่กันวันนี้ หรือถึงแม้เหตุการณ์เมื่อวานจะไม่ได้เกิดขึ้นก็ตามที การปฏิรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตยก็ยังไม่มีวันก้าวหน้าครับ ถ้ายังไม่สามารถส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและสำนึกของประชาชนได้

อย่าลืมนะครับ ประชาธิปไตยเป็นการปกครองของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน ตราบใดที่ประชาชนยังโง่อยู่ การปกครองก็โง่ตาม ประเทศชาติก็ไม่อาจพัฒนาได้

และอย่างที่ผมคุยกับเพื่อนวันนี้ ถ้าคิดว่าที่ผ่านมาเรายังไม่มีประชาธิปไตย แล้วคิดหรือว่าพรุ่งนี้ มะรืนนี้ ปีหน้า หรืออีกสิบปี เราจะมี?

ช่วยกันหวัง คงจะไม่พอครับ

แต่ตอนนี้ ก็ยังคงทำได้แค่นั้น

Tags: |

6 comments:

  1. ถ้าเทียบกันจริง ๆ แล้ว 74 ปีกับระบอบประชาธิปไตยในประเทศที่ไม่พร้อม ก็ยังไม่นับว่าจะเป็นอะไรขึ้นมาได้อยู่แล้วนี่ กับประเทศอื่นที่เค้าพยายามกันมาสองร้อยกว่าปี (30 เมษายน พ.ศ. 2332 - พิธีเข้ารับตำแหน่งของ George Washington ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา นับถึงวันนี้ก็ 217 ปีกว่า ๆ)
     
    ความจริงแล้วเรื่องนี้อาจจะต้องมองลึกลงไปถึงรากฐานที่สำคัญที่สุดของประเทศ คือการศึกษา ตราบใดที่การศึกษายังเป็นอย่างที่เห็นก็คงไม่ทำให้อะไรอื่น ๆ ไปได้ถึงไหนเท่าไหร่หรอก (การศึกษาภาคบังคับตอนนี้ให้ถึง ม.3 หรือ ม.6 นะ ไม่รู้สิ) ซึ่งอย่างน้อยในความเห็นส่วนตัวของเราก็ต้องม. 6 ล่ะ เป็นอย่างน้อย ถึงจะเพียงพอที่จะพัฒนาเรื่องของประชาธิปไตยได้ แล้วตอนนี้ พวกที่โดนการศึกษาภาคบังคับที่ขยายเวลาก็ยังเรียนกันไม่จบ และถึงจบก็ต้องอีกกี่ปีถึงจะมีวุฒิภาวะพอที่จะไม่ถูกหลอกง่าย ๆ แล้วก็ยังต้องรอให้พวกวัยทำงาน ณ เวลานี้ ซึ่งเป็นฐานเสียงส่วนใหญ่ในประเทศหมดรุ่นไปก่อนอีก ดูแล้วก็ยังอีกนานเห็น ๆ
     
    ก็ยังมีอีกประเด็นแหละ เรื่องของคอมมิวนิสต์กับประเทศจีน ว่ากันตามความเป็นจริง ถ้าไม่ใช่เพราะคอมมิวนิสต์ จีนอาจจะรับมือสถานการณ์ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อตอนสมัยโน้นไม่ได้ แต่ก็นั่นแหละ คนที่เคยไม่มีกิน ก็มีกินขึ้นมาบ้าง คนที่เคยมีกิน ก็มีกินลดลงไป ก็มีคนได้ประโยชน์ มีคนเสียประโยชน์ คนได้ก็บอกว่าดี คนเสียก็ต้องประนาม ท้ายสุดแล้วก็เอาตัวเองเป็นที่ตั้งนั่นแหละ อย่างไรก็ตาม โลกนี้ก็ไม่มีอะไรที่ยุติธรรมทั่วถึงกันอยู่แล้ว (นี่ไม่ใช่สนับสนุนคอมมิวนิสต์นะ แค่ลองเอามาให้เปรียบกับรัฐประหารของไทย พูดในแง่ที่ประเทศไม่มีความพร้อม)
     
    ก็อย่างว่าแหละนะ ยังต้องอีกนานกว่าประชาธิปไตยของไทยจะเริ่มขึ้นบกน่ะ (ก่อนอื่นคงต้องให้อัตรารู้หนังสือใกล้เคียง 100 % ก่อนละมั้ง)
     
    ถือว่า seasons change ละกัน อย่าไปเดือดร้อนกับมันมากนักเลย กำลังตั้งปณิธานอยู่ว่าจะเลิกถกเรื่องนี้แล้วล่ะ
     
    ***no eng version ^ ^***

    ReplyDelete
  2. อย่าคิดมาก ปล่อยเค้าไปก่อน
     
    เอาเวลาที่มีไปอ่านหนังสือซะ คนยังสอบไม่เสร็จ
     
    จากคนปิดเทอมแล้ว อิอิ (ปิด9วันเอง--")

    ReplyDelete
  3. Cool! Mr. Paul.....
     
    I think Thai people will learn that people of Thailand must establish their own fate, not just wait for any "Hero", although it would take a long time from here to reach that point.
     
    (Actually, the phenomenon of "Heroism" is still everywhere, even in the USA nowadays........The path they would have to travel is still a long way too).

    ReplyDelete
  4. เราเคยแอบคิดว่าตกลงไอระบอบประชาธิปไตยนี่ดีจริงๆหรือเปล่า หรือเปลี่ยนตามๆกันไปเพื่อให้นานาประเทศยอมรับ เหมือนสมัยก่อนนู้นที่เปลี่ยนโน่นนี่ตามแบบตะวันตก เพื่อให้เค้ามองว่าเราเจริญแล้ว ทำตามแบบเค้าได้แล้ว ยังงั้นหรือ?
    .....
    ไม่รู้นะ เราว่า ถึงจะไม่ได้ปกครองตามแบบประชาธิปไตยจ๋า มีการเลือกตั้งยังงู้นยังงี้ เราก็พอใจดีออกพักนี้ดูข่าวทีไรแล้วรู้สึกเหมือนดูหนังชีวิตประเภทเศร้ามาทั้งเรื่อง แล้วมาจบตอนท้ายเรื่องแบบ happy ending ยังไงยังงั้น
    .....
     
    อยากเขียนต่ออีกตรึม แต่ไม่รู้จะเล่ายังไง ให้มันไม่ดูเหมือนกำลังชุมนุมทางการเมืองกันอยู่
    เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเป็นคลื่นใต้น้ำ
    ไปดีกว่า
     
    ps อย่าลืมรางวัลนะ คุณพอ ฮุโฮะ

    ReplyDelete
  5. Democracy is the best of the worst.
     
    อยากให้มันดีกว่านี้ คงต้องยกเครื่องใหม่ทั้งประเทศเลยมั้งคุณพอ

    ReplyDelete
  6. You're right, Paul.
     
    But I think education is not enought. We must encourage people to think by themself and feel free to express their thought. According to Thai custom, it is naturally conservative in this way. So i think this is a long way. Or we just develop country in Thai method :)

    ReplyDelete