และแล้วก็มาถึงวันนี้จนได้ วันที่โพสต์บน Twitter ครบ 10,000 ทวีต ซึ่งความจริงก็รู้อยู่แล้วแหละว่าพิมพ์โน่นบ่นนี่ไปเรื่อย ๆ สักวันมันก็คงถึง แต่ถ้าไล่ย้อนกลับไป เมื่อปี 2007 ตอนนั้นยังคิดอยู่เลยว่าทวิตเตอร์อะไรนี่มันดูไร้สาระจริง จะต้องไม่ยุ่งกับมัน แล้วเป็นไง...
ความจริงบล็อกฉลองยอดทวีตครบเลขกลม ๆ นี่กะจะเขียนตั้งแต่ตอน 1,000 แล้ว โดยวางแผนไว้ว่าจะทำสถิติทวีตทั้งหมดว่าเกี่ยวกับอะไรบ้าง และ/หรือยกทวีตบางอันขึ้นมาเล่าความหมายเบื้องหลัง ว่าภายใต้ขีดจำกัด 140 อักขระนั้นมีความคิดอะไรแฝงอยู่ แต่มาถึงตอนนี้คงไม่มีปัญญาไล่ดูหมดหมื่นทวีตละ (ความจริงใน archive ที่ดาวน์โหลดมามีแค่ 9,974 จาก 9,999 ไม่แน่ใจว่าที่หายไปนั่นคือ retweets ที่เจ้าของลบไปหรืออะไรบ้าง) งั้นสุ่มเลือกเอามาเล่าสัก 10 อันละกัน
มาดูกันเลยดีกว่า
ความแตกต่างในการตอบสนองของสังคมต่อกรณีเฟอร์รารี เทียบกับกรณีซีวิค มาจากอะไร?
— Paul_012 (@Paul_012) September 4, 2012
คงจำกันได้มั้ง ทวีตนี้พูดถึงกรณีข่าว “ทายาทกระทิงแดง” ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อเดือน ก.ย. ปี 2012 ซึ่งบริบทของเหตุการณ์มันดู [outrageous] ทีเดียว แต่กลับไม่เห็นชุมชนออนไลน์ลุกเป็นไฟเหมือนกรณีอุบัติเหตุโทลล์เวย์เมื่อ ธ.ค. 2010 ทั้งที่กรณีก่อนหน้า ผู้ขับรถคันเกิดเหตุไม่ได้ขับรถหรู ไม่ได้เมาเหล้า และไม่ได้ชนแล้วหนี
ในหมื่นทวีตที่ผ่านมา มีจำนวนมากที่เป็นคำถามปลายเปิดต่อข่าวและเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ทวีตลอย ๆ ไปงั้นแหละ ไม่ได้ต้องการคำตอบอะไร (แต่ถ้าได้ก็ดี ซึ่งไม่ค่อยมีหรอก) บางอันก็ถามเองตอบเอง อย่างกรณีนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น
@mamuang กำลังจะปลดระวางปากการาวสิบด้าม เอาไปเผื่อใครมะ
— Paul_012 (@Paul_012) March 2, 2014
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทวีตที่เป็น @ replies นี่เป็นสัดส่วนสักเท่าไหร่ของทั้งหมด* แต่ก็คงมีอยู่เยอะเหมือนกัน (โดยเฉพาะช่วงแรก ๆ น่าจะเป็นการโต้ตอบกับ @chayanin เสียเกือบครึ่งได้มั้ง) ทวีตนี้ก็ไม่มีอะไร แค่ตอบที่ @mamuang พูดถึงการใช้สปริงปากกาดามคอสาย Lightning
สิ่งหนึ่งที่น่าสนเท่ห์เกี่ยวกับการสอนประวัติศาสตร์ไทยในโรงเรียน คือการไม่กล่าวถึงแนวคิดรูปแบบการเมืองที่เรียกว่า mandala เลยแม้แต่นิดเดียว
— Paul_012 (@Paul_012) March 5, 2014
ฮ่า ๆ ปรากฏว่าเรื่องนี้ทวีตซ้ำหลายรอบเหมือนกันแฮะ ก็เป็นหนึ่งในทวีตวิพากษ์วิจารณ์ระบบการศึกษา สังคมไทย และความเข้าใจประวัติศาสตร์ ซึ่งแนวคิดระบบ mandala (จาก มณฺฑล ในภาษาบาลี/สันสกฤต) นี่เราก็ไม่เคยได้เรียนในโรงเรียนจริง ๆ ทั้งที่เป็นแก่นของประวัติศาสตร์การเมืองไทยก่อนสมัยใหม่ที่สำคัญมาก กลับได้เรียนแต่ประวัติศาสตร์แนวชาตินิยมที่เล่าผ่านแผนที่ของคุณทองใบ แตงน้อย (เรื่องนี้มีคนวิจารณ์ไว้เยอะแล้ว อธิบายสั้น ๆ มันคือการที่เมืองเล็กต่างปกครองตนเอง แต่ก็อยู่ในอาณัติของเมืองใหญ่ และเมืองใหญ่ก็อยู่ในอาณัติของเมืองใหญ่กว่าอีกที โดยทั้งหมดนี้แต่เดิมเป็นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ซึ่งไม่ตายตัว และเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ตลอด)
ทำไมผลิตภัณฑ์อาหารหลายอย่างต้องโฆษณาว่าไม่ใส่ผงชูรส? ทำไมถึงเชื่อกันว่าผงชูรสเป็นอันตรายต่อสุขภาพ?
— Paul_012 (@Paul_012) July 20, 2011
อันนี้ก็เป็นทวีตคำถามลอย ๆ เหมือนกัน แต่เป็นคำถามต่อเรื่องราวทั่วไปในชีวิตประจำวัน ถ้าสังเกตอาจจะเห็นว่าพยายามเคร่งครัดกับการใช้ปรัศนีกำกับทวีตเหล่านี้มาก (ปกติไม่ได้ใช้ในการพิมพ์กรณีอื่น) แต่ก็มีที่ลืม ๆ ไปบ้างเหมือนกัน
แต่เรื่องผงชูรสนี่ก็น่าสงสัยจริง ๆ ค่านิยมว่าผงชูรสไม่ดีมาจากไหน ทำไมอาหารต้องโฆษณาว่าไม่ใส่ผงชูรส ทำไมเราชอบเรียกขนมบางอย่างแบบติดตลกกันว่า “ขนมผงชูรส” หรือ “ขนมผมร่วง” ทั้งที่ไม่ได้มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่ามันมีผลเสียแตกต่างไปจากโซเดียมที่ได้จากเกลือแกงเลย (นอกจากการเกิดภาวะ Chinese restaurant syndrome ซึ่งก็ไม่ได้ชัดเจน และเป็นปรากฏการณ์คนละอย่างกับที่คนไทยพูดกัน)
@TonsTweetings นึกว่าเพราะกะให้ย้ายรถสายภูมิภาคขึ้นมาวิ่งด้วย (เลิกใช้รางเก่าระดับพื้นดิน) ในอนาคตเสียอีกครับ?
— Paul_012 (@Paul_012) July 14, 2014
อันนี้ก็เป็นทวีต @ reply อีกอัน แต่น่าสนใจตรงที่คุณ @TonsTweetings เป็นบุคคลที่รู้จักแต่ในทวิตเตอร์
ความจริงนั่งนึกดู การใช้ทวิตเตอร์ของตัวเองก็แปลกดีเหมือนกัน คือพยายามมากที่จะจำกัดขอบเขตเรื่องที่ทวีต (ด้วยคำนึงว่าเป็นพื้นที่สาธารณะ) แต่ในขณะเดียวกันส่วนใหญ่ก็ follow แต่คนที่รู้จักในชีวิตจริง มีน้อยมากที่จะงอกออกไปกว่านั้น และก็ยังจำกัดแค่คนรู้จักทุติยภูมิ (คนรู้จักของคนรู้จัก) หลายคนก็ฟอล ๆ อัน ๆ อยู่หลายรอบ เพราะอัตราการทวีตสูงจนท่วมไทม์ไลน์ (เป็นคนใช้ทวิตเตอร์แบบต้องอ่าน 100% ความจริง following ที่ active น่าจะมีอยู่ไม่กี่สิบคน มากกว่านั้นตามอ่านไม่ไหว)
ป.ล. เรื่องสายสีแดงว่าทำไมเป็น metre gauge ในทวีตข้างต้นนั่นบอกถูกแล้วนะ
@Paul_012 คิด ๆ ดูแล้วคำถามนี้น่าจะติดมาจาก http://t.co/ngF1y1YEnC ที่เห็นผ่านตาวันก่อน (ปกติไม่ได้เข้า reddit)
— Paul_012 (@Paul_012) December 6, 2013
การ @ reply หาตัวเองนี่แต่ก่อนอาจจะทำเวลาต้องการผูกโซ่ทวีต (ข้อจำกัดทางเทคนิคสมัยนั้น) แต่ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อขยายความทวีตข้างต้น (ดังเช่นในกรณีนี้)
@chayanin นอกจาก http://rirs3.royin.go.th/coinages/webcoinage.php น่ะเหรอ?
— Paul_012 (@Paul_012) January 25, 2011
โผล่มาจนได้ ไล่ดูทวีตทั้งหมดนี่พบว่าเป็นการโต้ตอบกับ @chayanin ถึง 16% เลยแฮะ
@chayanin เหมือนว่า Modernine (มั้ง) จะใช้เป็น bgmusic ของตารางรายการ
— Paul_012 (@Paul_012) June 22, 2010
อีกละ ฮ่า ๆ อันนี้เป็นบทสนทนาสืบเนื่องจากทวีตก่อนหน้าว่า เพลงขอความสุข...คืนกลับมา ที่ได้ยินอยู่ในโทรทัศน์แทบทุกชั่วโมงนี่ชักจะรู้สึกรำคาญขึ้นทุกวัน
ซึ่งช่วง พ.ค.–มิ.ย. 2010 มันเป็นงั้นจริง ๆ คือเพลงเปิดกรอกหูจนสิ่งที่ได้ยินไม่ใช่แค่ทำนองกับคำร้อง แต่ออกมาเป็นสารของเพลงเลยว่า แต่ก่อนพวกเธอคนบ้านนอกอยู่กันจน ๆ ไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรก็มีความสุขดีไม่ใช่เหรอ จะมาเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงอะไรให้วุ่นวายทำไม กลับบ้านนอกไปซะ
@iheresss (1) Petrol. (2) รู้สึกว่าข้อความมันไม่ค่อยสมเหตุผลเพราะทั้งสองอนุประโยคคล้อยตามกัน แต่ใช้ but เป็นคำเชื่อม
— Paul_012 (@Paul_012) August 28, 2012
เออ ทวีต @ reply หาคนอื่นมันเยอะจริงแฮะ
มีอยู่ช่วงนึงที่สร้างแอคเคานต์ @Paul_012checker ขึ้นมาตอบอะไรแบบนี้โดยเฉพาะ แต่หลัง ๆ ขี้เกียจเลยเลิกไป
@scomma เออลืม ไป conflate การซื้อกับการอ่านจริง
— Paul_012 (@Paul_012) September 2, 2015
โห่ random ไงเนี่ย ไม่ representative เลย อันนี้ไม่รู้จะคอมเมนต์อะไร เหมือนที่พูดถึงคุณ @TonsTweetings ข้างบน
อืมม... 10 ทวีตนี้เล่าเรื่องราวอะไรบ้างไหมเนี่ย แต่ไหน ๆ แล้ว ขอ honourable mention อีกอันละกัน
ทำไมเวลาสอนอักษรไทยตอนอนุบาลเขาไม่เรียงแบบนี้นะ pic.twitter.com/mm55SkkLFG
— Paul_012 (@Paul_012) January 16, 2014
ครับ ก็ขอจบโพสต์กับผลงานชิ้นโบว์แดง* ในทวิตเตอร์อันนี้ ขอเรียกว่าเป็นทวีตไวรัลที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าเคยสร้างสรรค์มา (และคงไม่สามารถทำได้อีกแล้ว) กับเกือบ 40,000 retweets ซึ่งเปิดโลกผู้ใช้ทวิตเตอร์ให้ได้เห็นอย่างน่าตื่นตาตื่นใจมาก (โดยเฉพาะปริมาณติ่งเกาหลี**)
แต่ก็หวังว่าจะไม่ได้มีโอกาสโพสต์ฉลองครบ 100,000 หรอกนะครับ (อีก 45 ปี เราน่าจะมีเครื่องผลาญเวลาที่ดีกว่าทวิตเตอร์แล้วนะ)
**ใช้ในความหมายที่ไม่ใช่เชิงดูถูก
No comments:
Post a Comment