เพื่อนบางคนมาเห็น post นี้อาจจะสงสัยว่าเกิดอารมณ์ค้างอะไรจาก dr/soc หรือไง... ก็ไม่ค่อยหรอก แต่เห็นสองสามวันนี้เป็นข่าวหลายเรื่อง เลยชักคันมือขึ้นมา...
ก็ไม่มีอะไรใหม่หรอก... เรื่องพวกนี้... ก็เป็นทิศทางของความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์-ผู้ป่วย ที่ยังไงก็คงหนีไม่พ้นการดิ่งเหวตามแบบสหรัฐฯ ไป... ในอนาคตไม่นานหมอทุกคนก็คงต้องทำประกันการถูกฟ้อง ก่อนตรวจคนไข้ก็ต้องเซ็นยินยอม คดีความพวกนี้เองก็คงจะเพิ่มจนมีทนายอีกกลุ่มที่ specialize ด้านนี้เป็นพิเศษ...
ฟังดูน่าเศร้าเนอะ... น่าเสียดายวัฒนธรรมความเป็นอยู่ ความสัมพันธ์อันดีที่เคยมีมา... แต่ในโลกทุนนิยมแบบนี้ ใครคิดว่าตัวเก่งนักก็ลองมาห้ามให้ได้แล้วกัน...
เอาเถอะ... ที่ผ่านมาไม่ใช่ประเด็นที่อยากพูดถึง...
ที่อยากจะพูดถึงคือ... ในศึกใหญ่เวทีนี้ ที่นับวันจะมีภาพออกไปให้ประชาชนเห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ... ไหนล่ะ กรรมการ?
อย่ามัวนึกถึงกระบวนการยุติธรรมที่กว่าจะให้คำตัดสินเกี่ยวกับอะไรได้สักเรื่องต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ จนคนที่ติดตามข่าวอยู่ก็จำไม่ได้... เวทีนี้ ศาลไม่ได้ตัดสินอะไรในสายตาสังคมอีกแล้ว
กรรมการของเวทีนี้ คือ สื่อมวลชน ต่างหาก
ก็เวลาภาพที่ประชาชนทั่วทั้งประเทศเห็นจากความขัดแย้งข้อนี้มันมาทางไหน ก็ผ่านสื่อมวลชน ข้อสรุป ใครถูกใครผิด อะไรก็ตาม ถูกวาดให้โดยสื่อมวลชนทั้งสิ้น
แล้วสื่อมวลชนก็เป็นกรรมการที่เล่นตามกติกาและดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมเสียเหลือเกิน...
ไม่ได้เจตนาเข้าข้างวิชาชีพที่ตนเองศึกษาอยู่นะ... (ถึงแม้อาจจะต้องมี bias ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ตาม) แต่ดูข่าว "ศาลอาญายกฟ้องแม่น้องเซนต์ที่ตกเป็นจำเลยในคดีหมิ่นประมาท รพ.พญาไท 1" ที่ออกมาวันนี้...
ข่าวรายงานว่า ศาลสั่งยกฟ้องในคดีที่ รพ.พญาไท 1 ฟ้องหมิ่นประมาทนางดลพร ที่ออกทีวีพาดพิง รพ.เมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้ว และตอนท้าย ก็มีบทสัมภาษณ์นางดลพรที่สะอื้นด้วยความตื้นตันขณะให้สัมภาษณ์ว่า "ต่อสู้มา 10 ปี ครั้งนี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความยุติธรรมถึงศาล และสิทธิที่ผู้บริโภคควรได้รับ"...
งงไหมครับ... นางดลพรได้รับความยุติธรรมตามสิทธิที่ผู้บริโภคควรได้รับ... แล้วทำไมถึงตกเป็นจำเลยคดีหมิ่นประมาท?
ที่มาของเรื่องนี้ก็คือ... เหตุเกิดตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว ที่นางดลพรประสบปัญหากับโรงพยาบาล (จะไม่ขอกล่าวถึงรายละเอียด) ซึ่งหลังการต่อสู้กัน 3 ศาลแล้ว ศาลฎีกาตัดสินยกฟ้อง โรงพยาบาลไม่ผิด สาเหตุความพิการของบุตรชายไม่ได้เกิดจากความประมาทของแพทย์และโรงพยาบาล...
ถึงตอนนี้... กว่าศาลจะตัดสิน ภาพที่สื่อประโคมออกมาทำให้โรงพยาบาลเสียชื่อไปขนาดไหนแล้ว... โรงพยาบาลตัดสินใจฟ้องกลับ (ตัดสินใจผิด เพราะลืมนึกถึงสื่อมวลชนนี่แหละ)
แต่พอศาลชั้นต้นตัดสินยกฟ้อง สิ่งที่ปรากฏให้ประชาชนได้เห็นกลับกลายเป็นการที่นางดลยาได้รับความยุติธรรมเป็นครั้งแรก หลังจากต่อสู้คดีมานับสิบปี... (ก็แปลว่าคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีแรกที่ยุติไปแล้วนั้นไม่ยุติธรรมน่ะสิ?)
อย่างที่บอกตอนแรกนะครับ... ภาพของคดีที่ประชาชนเห็น คือภาพที่สื่อมวลชนเสนอให้... หากสื่อมวลชนต้องการให้ประชาชนเข้าใจประเด็นอย่างถูกต้อง ก็คงต้องให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างครบถ้วน...
แต่เราก็ต้องเข้าใจว่าสื่อมวลชนเขาอยู่ได้ด้วยการขายข่าว... ประชาชนมากมายเองที่รับบริการสุขภาพจากแพทย์ ก็รู้สึกว่าแพทย์กุมชะตาชีวิตของเขาและครอบครัวไว้ หากเกิดอะไรผิดพลาดใครจะรับผิดชอบ? (ถึงแม้ทุกคนเองก็รู้ดีว่าหมอไม่ใช่เทวดาหรือพระเจ้านี่นา?) คงไม่ต้องบอก ว่าข่าวที่ขายออก จะเข้าข้างฝ่ายไหน...
อีกตัวอย่างนึงของความเปลี่ยนแปลงของสังคมและระบบบริการสุขภาพ... ข่าวเมื่อไม่กี่วันมานี้... ภรรยาที่เพิ่งคลอดพบผ้าก๊อซในช่องคลอด... ปกติเราคงคิดว่าเมื่อเจออย่างนี้คงต้องรีบไปหาหมอก่อน ถึงแม้จะไม่ไปหาหมอที่เดิมก็ตาม แต่รายนี้...
วิ่งเข้าแจ้งกับสื่อมวลชนทันที~
เอาเถอะครับ... มุมมองที่เขียนมาก็ไม่ใช่มุมมองที่เป็นกลาง... แต่บางที ท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ก็อาจจะพอวาดแนวความคิดของตัวเองได้ชัดขึ้นอีกนิด...
เฮ่อ...
ได้ข่าวว่าที่มหิดลมีเปิดคณะการสื่อสารระหว่างหมอกะคนไข้อะไรแบบนั้นด้วยอะพอ
ReplyDeleteเฮ่อออ ... คิดถึง DR soc จังเนอะ
แล้วก็เครียดด้วย กว่าจะถึงรุ่นพวกเรา มันจะดุเดือดขนาดไหนเนี่ย
ใจเย็นๆหน่า
ReplyDeleteอ่านไดแป้ง กะ blog พอ แล้วดูมีสาระดีแฮะ ไม่เหมือนไดเรา
ที่จริงมันไม่ใช่เฉพาะเรื่องหมอกับคนไข้หรอก... มันทุกเรื่องที่ตกเป็นข่าวน่ะ ทุกอย่างก็ถูกทาสีก่อนออกสู่สายตาประชาชนอยู่แล้ว...
ReplyDelete